คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4574/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

รถแทรกเตอร์ที่จำเลยที่ 1 เช่าซื้อจากโจทก์ร่วมถูกผู้ก่อการร้ายปล้นเอาไปจากจำเลยที่ 1 เป็นผลทำให้สัญญาเช่าซื้อระงับไปตั้งแต่วันก่อนถึงกำหนดที่จำเลยที่ 1ต้องชำระค่าเช่าซื้องวดแรก จำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดชำระค่าเช่าซื้อตามที่กำหนดไว้ในสัญญาเช่าซื้ออีก เช็คทั้งสองฉบับที่จำเลยที่ 1 ออกให้เพื่อชำระค่าเช่าซื้อให้โจทก์ร่วมจึงไม่มีมูลหนี้ ทั้งไม่ได้ความว่าโจทก์ร่วมและจำเลยที่ 1 ได้ตกลงให้เอาเช็คดังกล่าว เป็นการชำระหนี้ที่จำเลยที่ 1 ต้องรับผิดตามสัญญาเช่าซื้ออันเนื่องมาจากรถแทรกเตอร์ที่เช่าซื้อสูญหายหรือเสียหาย จำเลยที่ 1กับจำเลยที่ 2 ผู้ซึ่งเป็นกรรมการผู้ลงลายมือชื่อในเช็คแทนจำเลยที่ 1 จึงไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3

จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ปรับจำเลยที่ 1 100,000 บาท จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 1 ปี

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้เป็นยุติว่าจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 กับนายปริญญา สิงหสกุลไกร ซึ่งเป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงชื่อแทนบริษัทจำเลยที่ 1 ได้เช่าซื้อรถแทรกเตอร์จากโจทก์ร่วม 1 คัน ตามสัญญาเช่าซื้อเอกสารหมาย จ.2 ได้ชำระเงินให้แล้ว 510,000 บาท ส่วนที่เหลือชำระค่าเช่าซื้อในอัตราเดือนละ 150,000 บาท 1 งวด และ 1,040,000 บาท อีก 1 งวด ชำระงวดแรกวันที่ 22 พฤศจิกายน 2522 เป็นต้นไป จำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 และนายปริญญา สิงหสกุลไกรสั่งจ่ายเช็คที่โจทก์นำมาฟ้อง 2 ฉบับ คือฉบับลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2522 จำนวนเงิน 150,000 บาท และลงวันที่ 22 ธันวาคม 2522 จำนวนเงิน 1,040,000 บาท ให้โจทก์ร่วมไว้เพื่อชำระค่าเช่าซื้อตามเช็คเอกสารหมาย จ.4, จ.6 ครั้นเช็คถึงกำหนด โจทก์นำเช็คทั้งสองฉบับไปเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงินจากธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาเจริญผล เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2522 ธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาเจริญผล ปฏิเสธการจ่ายเงินเนื่องจากเงินในบัญชีของจำเลยที่ 1 มีไม่พอจ่ายตามเช็ค หลังจากจำเลยที่ 1 ทำสัญญาเช่าซื้อรถแทรกเตอร์จากโจทก์ร่วมแล้ว ต่อมาวันที่ 6 พฤศจิกายน 2522 ผู้ก่อการร้ายได้ปล้นเอารถแทรกเตอร์ที่เช่าซื้อจากโจทก์ร่วมไป

ปัญหาวินิจฉัยมีว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 กระทำผิดตามฟ้องหรือไม่ พิเคราะห์แล้วเห็นว่ารถแทรกเตอร์ที่จำเลยที่ 1 เช่าซื้อจากโจทก์ร่วมตามสัญญาเช่าซื้อเอกสารหมาย จ.2 ถูกผู้ก่อการร้ายปล้นเอาไปจากจำเลยที่ 1 เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2522 เป็นผลทำให้สัญญาเช่าซื้อระงับไปตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายน 2522 ก่อนถึงกำหนดที่จำเลยที่ 1 ต้องชำระค่าเช่าซื้องวดแรก จำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดชำระค่าเช่าซื้อตามที่กำหนดไว้ในสัญญาเช่าซื้ออีก เช็คทั้งสองฉบับตามเอกสารหมาย จ.4 จ.6 ที่จำเลยที่ 1 ออกให้เพื่อชำระค่าเช่าซื้อให้โจทก์ร่วมจึงไม่มีมูลหนี้ที่โจทก์ฎีกาว่าเมื่อรถแทรกเตอร์ที่เช่าซื้อสูญหายหรือเสียหาย จำเลยจะต้องรับผิดตามสัญญาเช่าซื้อข้อ 3 นั้น เห็นว่า ตามพยานหลักฐานของโจทก์จำเลยที่ 1 ออกเช็คเอกสารหมาย จ.4 จ.6เพื่อชำระค่าเช่าซื้อเท่านั้นไม่ได้ความว่า โจทก์ร่วมและจำเลยที่ 1 ได้ตกลงให้เอาเช็คดังกล่าวเป็นการชำระหนี้ที่จำเลยที่ 1 ต้องรับผิดตามสัญญาข้อ 1 จำเลยทั้งสองจึงไม่มีความผิดตามฟ้อง

พิพากษายืน

Share