คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4561/2545

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พฤติการณ์ที่โจทก์ผู้รับจ้างตกลงกับบริษัท ค. ให้บริษัท ค. รับเงินค่าจ้างจากจำเลยผู้ว่าจ้างเพื่อนำมาชำระหนี้ที่โจทก์มีอยู่ต่อบริษัท ค. แล้วคืนเงินส่วนที่เหลือจากการหักชำระหนี้ให้โจทก์ โดยโจทก์เป็นผู้ออกใบเสร็จรับเงินค่าจ้างที่จำเลยจ่ายไปทุกงวดให้แก่จำเลย แม้หนังสือเอกสารหมาย ล. 1 ที่โจทก์ทำกับบริษัท ค. จะใช้ข้อความว่าโจทก์โอนสิทธิรับเงินค่าจ้างให้แก่บริษัท ค. แต่ตามเจตนาของคู่กรณีดังกล่าวหาใช่เป็นการโอนสิทธิเรียกร้องกันไม่ เป็นเพียงโจทก์มอบอำนาจให้บริษัท ค. รับเงินแทนโจทก์เท่านั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินค่าก่อสร้างอาคารที่พักอาศัย ๑,๘๐๐,๘๖๔.๓๖ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ของต้นเงิน ๑,๕๗๔,๕๑๙.๓๖ บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า โจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาจึงไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง และบังคับให้โจทก์ชำระเงินค่าปรับ ๗,๗๒๘,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นับแต่วันฟ้องแย้งเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่จำเลย
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า โจทก์มิได้เป็นฝ่ายผิดสัญญา ขอให้ยกฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน ๕๒๔,๕๑๙.๓๖ พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับตั้งแต่วันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๓๗ เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก และให้ยกฟ้องแย้งของจำเลย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พิเคราะห์แล้ว ที่จำเลยฎีกาว่า เงินค่าจ้างงานเพิ่มเติม ๕๒๔,๕๑๙.๓๖ บาท โจทก์ได้โอนสิทธิการรับเงินดังกล่าวไปยังบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์คาเธ่ย์ไฟน์แนนซ์ จำกัดแล้ว ตามเอกสารหมาย ล. ๑ และบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์คาเธ่ย์ไฟน์แนนซ์ จำกัด ไม่ได้มีหนังสือแจ้งยกเลิกการโอนสิทธิเรียกร้องการชำระเงินไปยังจำเลย จำเลยจึงไม่มีหน้าที่ต้องชำระเงินค่าจ้างงานเพิ่มเติมให้แก่โจทก์ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องนั้น… โจทก์กับบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์คาเธ่ย์ไฟน์แนนซ์ จำกัด ตกลงกันให้บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์คาเธ่ย์ไฟน์แนนซ์ จำกัด รับเงินจากจำเลยเพื่อนำมาชำระหนี้ที่โจทก์มีอยู่ต่อบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์คาเธ่ย์ไฟน์แนนซ์ จำกัด ก่อน เงินส่วนที่เหลือจากการหักชำระหนี้บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์คาเธ่ย์ไฟน์แนนซ์ จำกัด ต้องคืนให้โจทก์ หรืออีกนัยหนึ่งเงินส่วนที่เหลือยังเป็นของโจทก์อยู่ ทั้งตามใบเสร็จรับเงินค่าจ้างที่จำเลยจ่ายไปทุกงวดโจทก์ก็เป็นผู้ออกใบเสร็จรับเงินให้แก่จำเลย ตามพฤติการณ์ดังกล่าว แม้หนังสือเอกสารหมาย ล. ๑ จะใช้ข้อความว่าโจทก์โอนสิทธิรับเงินค่าจ้างให้แก่บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์คาเธ่ย์ไฟน์แนนซ์ จำกัด แต่ตามเจตนาของคู่กรณีดังที่กล่าวมาแล้วหาใช่เป็นการโอนสิทธิเรียกร้องกันไม่ โดยเป็นเพียงโจทก์มอบอำนาจให้บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์คาเธ่ย์ไฟน์แนนซ์ จำกัด รับเงินแทนโจทก์เท่านั้น เมื่อฟังว่าเอกสารหมาย ล. ๑ ไม่ใช่หนังสือที่โจทก์ได้โอนสิทธิเรียกร้องในการรับเงินค่าจ้างให้แก่บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์คาเธ่ย์ไฟน์แนนซ์ จำกัด ก็ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยต่อไปว่า โจทก์ได้โอนสิทธิเรียกร้องเงินค่าจ้างงานเพิ่มเติมให้แก่บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์คาเธ่ย์ไฟน์แนนซ์ จำกัด ตามเอกสารหมาย ล. ๑ ด้วยหรือไม่ ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องและให้จำเลยชำระเงินค่าจ้างงานเพิ่มเติมให้แก่โจทก์นั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
อนึ่ง ศาลชั้นต้นยังมิได้สั่งค่าฤชาธรรมเนียมสำหรับฟ้องแย้ง ศาลฎีกาจึงสั่งให้ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๖๑
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมสำหรับฟ้องแย้งในศาลชั้นต้นและค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

Share