คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4561/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กรณีที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะใช้สิทธิเรียกร้องของจำเลยทวงหนี้จากลูกหนี้ของจำเลยตาม มาตรา 119 สิทธิเรียกร้องของจำเลยจะต้องมีอยู่ก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ เพราะเมื่อมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์แล้ว อำนาจจัดกิจการทรัพย์สินของจำเลยย่อมตกอยู่แก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ตามมาตรา 6 และมาตรา 22เมื่อผู้ร้องซึ่งเคยเป็นกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนจำเลยเข้าจัดการทรัพย์สินของจำเลยหลังวันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยชั่วคราว โดยเบิกเงินจากบัญชีของจำเลย จึงเป็นการกระทำโดยไม่มีอำนาจ เป็นเรื่องที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ต้องว่ากล่าวกับผู้ร้องต่างหาก เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่อาจใช้อำนาจตามมาตรา 119 เรียกร้องให้ผู้ร้องชำระเงินดังกล่าวได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยชั่วคราวและต่อมามีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ผู้คัดค้านมีหนังสือแจ้งให้ผู้ร้องชำระหนี้และยืนยันหนี้ให้ผู้ร้องชำระเงินที่ผู้ร้องได้เบิกเงินจากบัญชีของจำเลย จำนวน 288,300 บาทพร้อมดอกเบี้ย
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องในฐานะกรรมการผู้จัดการของจำเลยได้เบิกเงินจากบัญชีของจำเลยจำนวนดังกล่าวไปชำระหนี้ที่จำเลยยืมจากบุคคลภายนอก ขอให้เพิกถอนคำสั่งของผู้คัดค้าน
ผู้คัดค้านคัดค้านว่า ผู้ร้องเบิกเงินหลังมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราวแล้ว ผู้ร้องไม่มีอำนาจกระทำได้ ไม่น่าเชื่อว่ามีการกู้ยืมเงินบุคคลภายนอกจริง ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า กรณีที่ผู้คัดค้านจะใช้สิทธิเรียกร้องของจำเลยดำเนินการทวงหนี้จากลูกหนี้ของจำเลยตามมาตรา 119สิทธิเรียกร้องของจำเลยดังกล่าวจะต้องมีอยู่ก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เพราะเหตุว่าเมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์แล้วไม่ว่าจะเป็นคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราวหรือพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดก็ตาม จำเลยย่อมไม่มีอำนาจจัดกิจการและทรัพย์สินของตนเอง อำนาจดังกล่าวตกอยู่แก่ผู้คัดค้านเพียงผู้เดียว ตามมาตรา 6 และมาตรา 22และผู้ร้องซึ่งเป็นกรรมการผู้มีอำนาจของจำเลยย่อมหมดอำนาจที่จะกระทำกิจการแทนจำเลยไปด้วย ข้อเท็จจริงได้ความว่า ผู้ร้องซึ่งเคยเป็นกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนจำเลยเบิกเงินจำนวน 288,300บาท จากบัญชีของจำเลยภายหลังวันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยชั่วคราว จึงเป็นเรื่องที่ผู้ร้องเข้าจัดกิจการทรัพย์สินของจำเลยโดยไม่มีอำนาจ เพราะอำนาจดังกล่าวเป็นของผู้คัดค้านกรณีจึงเป็นเรื่องผู้ร้องกระทำการล่วงละเมิดอำนาจหน้าที่ของผู้คัดค้านซึ่งหากเกิดความเสียหายแก่จำเลยประการใด ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายหลังวันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ ซึ่งผู้คัดค้านจะต้องว่ากล่าวกับผู้ร้องต่างหาก ผู้คัดค้านจึงไม่อาจใช้อำนาจตามมาตรา 119 เรียกร้องให้ผู้ร้องชำระเงินจำนวนดังกล่าว กรณีเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง
พิพากษากลับ ให้จำหน่ายชื่อผู้ร้องออกจากบัญชีลูกหนี้

Share