คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4525/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยจำหน่ายเฮโรอีนที่จำเลยมีไว้ในครอบครองให้ผู้มีชื่อไปทั้งหมดในคราวเดียวกัน ไม่มีเฮโรอีนจำนวนอื่นที่จำเลยอีก การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานจำหน่ายเฮโรอีนเพียงกรรมเดียว ไม่เป็นความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายอีกกรรมหนึ่งด้วย
ปัญหาว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียวหรือหลายกรรมเป็นปัญหาที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเองได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๗, ๑๕, ๖๖, ๖๗, ๑๐๒ พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๒๘ มาตรา ๔ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ (พ.ศ. ๒๕๒๒) เรื่อง ระบุชื่อและประเภทยาเสพติดให้โทษ ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ ลงวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๒๒ ข้อ ๑ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๒๖ มาตรา ๔ ริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๗, ๑๕, ๖๖, ๖๗, ๑๐๒ พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๒๘ มาตรา ๔ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๒๒) เรื่อง ระบุชื่อและประเภทยาเสพติดให้โทษ ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ ลงวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๒๒ ข้อ ๑ ฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำคุก ๒๕ ปี ฐานจำหน่ายเฮโรอีนโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก ๒๕ ปี เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๒๖ มาตรา ๔ จำคุก ๕๐ ปี จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๒๕ ปี ริบเฮโรอีนของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๖๖ วรรคแรก ฐานจำหน่ายเฮโรอีนเพียงกระทงเดียวลงโทษจำคุก ๒๕ ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดี ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๑๒ ปี ๖ เดือน นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยนำเฮโรอีนของกลางจำนวน ๓๑ ห่อ น้ำหนัก ๒๖.๒๗๐ กรัม ไปจำหน่ายให้กับสิบตำรวจเอกสุรินทร์ ฉิมบรรเทิง ซึ่งปลอมตัวเป็นผู้ซื้อ โจทก์ฎีกาว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายอีกกรรมหนึ่งต่างหากจากความผิดฐานจำหน่ายเฮโรอีน เห็นว่าจำเลยได้จำหน่ายเฮโรอีนของกลางไปทั้งหมดให้แก่สิบตำรวจเอกสุรินทร์ในคราวเดียวกัน ก็คือเฮโรอีนจำนวนเดียวกันนั้นเอง ไม่มีเฮโรอีนจำนวนอื่นที่จำเลยอีก แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพตามฟ้องว่า มียาเสพติดให้โทษเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเฮโรอีนเป็น ๒ กรรมก็ตาม แต่กรณีนี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๒๕ ประกอบมาตรา ๑๙๕ การกระทำของจำเลยดังกล่าวจึงเป็นความผิดฐานจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ เฮโรอีนกรรมเดียว ไม่ใช่เป็นความผิดฐานมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ เฮโรอีนอีกกรรมหนึ่งตามที่โจทก์ฎีกา คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share