คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 451/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่ชายตลิ่ง ซึ่งฤดูน้ำ น้ำท่วมถึงทุกปีนั้น เป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1304 (2) เป็นหน้า
ที่ของกรมการอำเภอจะต้องคอยตรวจตรารักษาอย่าให้ผู้ใดกีดกันเอาไปเป็นประโยชน์แต่เฉพาะตัว ตาม พ.ร.บ.
ลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 มาตรา 122.
ฉะนั้นเมื่อกรมการอำเภอมีคำสั่งห้ามไม่ให้ผู้ใดปลูกผักบนที่ชายตลิ่งตรงหน้าที่ดินของผู้อื่น จึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วย
กฎหมาย ผู้ใดยังฝ่าฝืนคำสั่ง ก็ย่อมมีความผิดตาม ก.ม.ลักษณะมาตรา 334(2) .

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๓๓๔ (๒)
จำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่าจำเลยผิดตามมาตรา ๓๓๔(๒) ให้ปรับจำเลย ๑๐ บาท.
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนแล้ว ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยกับนางยวงมีที่ดินติดต่อกัน ได้รับโฉนดแล้วทั้งคู่ หน้าที่ดินติดทาง
สาธารณะเหมือนกัน พ้นทางสาธารณะไปเป็นชายตลิ่ง ฤดูน้ำ น้ำท่วมถึงทุกปี พอน้ำลด จำเลยก็ปลูกผักลงบนที่ชายตลิ่ง
ตรงหน้าที่ดินของนางยวง บัดนี้นางยวงให้ผู้มีชื่อเช่าที่ดินของตนทำโรงเลื่อย ผู้เช่าเอาไม้ขึ้นลงไม่ได้ เพราะกีดผักที่จำเลยปลูกไว้ นางยวงขอให้ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ห้ามปรามจำเลย จำเลยไม่ฟัง ผลที่สุดกรมการอำเภอสั่งห้าม
จำเลย จำเลยก็ไม่เชื่อฟังอีกโดยอ้างว่า จำเลยเคยปลูกผักในที่ชายตลิ่งตรงนั้นมาหลายสิบปีแล้ว โจทก์จึงฟ้องคดีนี้
ได้ความดังนี้ ศาลนี้ เห็นว่าที่ชายตลิ่ง ซึ่งฤดุน้ำ น้ำท่วมถึงทุกปี นั้น เป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน ตาม ป.ม.แพ่งฯ
มาตรา ๑๓๐๔ (๒) เป็นหน้าที่ของกรมการอำเภอจะต้องคอยตรวจตรารักษาอย่าให้ผู้ใดกีดกันเอาไปเป็นอาญาประโยชน์
แต่เฉพาะตัวตาม พ.ร.บ. ปกครองท้องที่ พ.ศ. ๒๔๕๗ มาตรา ๑๒๒ เมื่อกรมการอำเภอมีอำนาจหน้าที่ดังนี้ คำสั่งของกรม
การอำเภอที่ห้ามไม่ให้จำเลยปลูกผักลงบนที่ชายตลิ่ง ตรงหน้าที่ดินของผู้อื่น จึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฏหมาย แม้นางยวง
หรือผู้เช่าที่ดินของนางยวงจะได้รับประโยชน์ในการสั่งห้ามนี้มากกว่าผู้อื่นก็ไม่สำคัญ จำเลยก็ย่อมมีผิดฐานขัดคำสั่งเจ้า
พนักงาน ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๓๓๔ (๒).
คงพิพากษายืน.

Share