แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยมีเจตนาจะฆ่านางเจตน์และอยู่ห่างจากนางเจตน์ 5 ฟุต จำเลยคว้าปืนบาเร็ตต้าขึ้นมากระชากลูกเลื่อนเอานิ้วมือเข้าไปในไกปืนแล้ว แต่จำเลยกระชากลูกเลื่อนไม่ถึงที่ ทหารเรือก็เข้าล๊อกคอจำเลยไว้และตำรวจเข้ามาแย่งปืนไปเช่นนี้ จำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา ม. 288, 80
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้ปืนบาเร็ตต้า พยายามจะยิงนางเจตน์ ประดับศิลป์ โดยมีเจตนาฆ่า แต่ขณะจำเลยหันปากกระบวกปืนไปที่นางเจตน์ และกระชากลูกเลื่อนปืนเพื่อจะยิงนางเจตต์นั้น จ่าตรีชาญและพลตำรวจบุญเลิศได้เข้าจับจำเลยและแย่งปืนได้เสียก่อน ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา ม. ๒๘๘, ๘๐
ชั้นแรกจำเลยให้การรับสารภาพ แต่ต่อมาให้การว่าจำเลยไม่ทันยกปืนขึ้นจ้องหรือกระชากลูกเลื่อนก็ถูกตำรวจแย่งเอาปืนคืนไป
ศาลอาญาฟังว่า จำเลยคว้าปืนขึ้นมายังไม่ได้กระชากลูกเลื่อนส่งกระสุนขึ้นลำกล้องก็ถูกแย่งปืนเสียก่อน ปืนของกลางยังไม่อยู่ในลักษณะใกล้ชิดและพร้อมที่จะใช้ยิงได้ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า จำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม. ๒๘๘, ๘๐ มีเหตุบรรเทาโทษลด ๑ ใน ๓ ตามมาตรา ๗๘ คงให้จำคุก ๖ ปี ๘ เดือน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่า จำเลยมีเจตนาจะฆ่านางเจตน์ จำเลยอยู่ห่างนางเจตน์ ๕ ฟุต และจำเลยคว้าปืนขึ้นมากระชากลูกเลื่อนเอานิ้วมือเข้าไปในไกปืนแล้ว แต่จำเลยกระชากลูกเลื่อนไม่ถึงที่ กลชุมจึงไม่ขึ้นส่งกล้องจ่าตรีชาญก็เข้าล๊อกคอจำเลยไว้ และพลตำรวจบุญเลิศก์เข้ามาแย่งปืนไปศาลฎีกาเห็นว่า การะกระทำของจำเลยเป็นการแสดงเจตนาจะฆ่านางเจตน์ โดยได้ลงมือกระทำความผิดนั้นแล้ว แต่กระทำไปไม่ตลอดจำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา ๘๐
พิพากษายืน