คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1497/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในกรณีที่ผู้เสียหายเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยไว้แล้ว ศาลชั้นต้นอนุญาตให้จำเลยมีประกันตัวไป ต่อมาอัยการจึงมาฟ้องจำเลยในมูลกรณีเดียวกันอีก พึงถือว่าจำเลยอยู่ในอำนาจของศาลที่จะบังคับให้นายประกันส่งตัวจำเลยมารับสำเนาฟ้องได้ เรื่องเช่นนี้อัยการหาจำต้องนำตัวจำเลยมาพร้อมกับฟ้องไม่ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 7/2496)

ย่อยาว

อัยการโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายนายเฉลิมจันทร์มีบาดเจ็บสาหัส จำเลยเป็นคน ๆ เดียวกับจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 678/2495 ระหว่าง นายเฉลิมจันทร์ โจทก์, นางส่อง ชูแก้ว จำเลยขอให้ศาลเบิกตัวจำเลยมาพิจารณาพิพากษาลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 256

ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีอาญาหมายเลขดำที่ 678/2495 นั้น ศาลได้ให้ประกันตัวไปแล้ว จึงเบิกตัวจำเลยมาไม่ได้ เป็นหน้าที่ของอัยการที่จะให้ได้ตัวจำเลยมาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 141, 165 จึงมีคำสั่งไม่ประทับฟ้องไว้พิจารณา

โจทก์อุทธรณ์, ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกาต่อมา

ศาลฎีกาปรึกษาโดยมติที่ประชุมใหญ่เห็นว่ากรณีเรื่องนี้ผู้เสียหายเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยไว้แล้ว ศาลชั้นต้นอนุญาตให้จำเลยมีประกันตัวไป ต่อมาอัยการจึงมาฟ้องจำเลยในมูลกรณีเดียวกันอีกพึงถือว่าจำเลยอยู่ในอำนาจศาลที่จะบังคับให้นายประกันส่งตัวจำเลยมารับสำเนาฟ้องได้ เรื่องเช่นนี้อัยการหาจำต้องนำตัวจำเลยมาพร้อมกับฟ้องไม่

จึงพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลล่างทั้งสองให้ศาลชั้นต้นรับฟ้องของอัยการโจทก์ไว้ดำเนินการต่อไป ฯลฯ

Share