แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในคดีที่โจทก์หลายคนฟ้องจำเลย ขอให้แบ่งมรดก จำเลยต่อสู้ว่าเป็นทรัพย์ของจำเลย ไม่ใช่มรดก เมื่อศาลชั้นต้น ฟังว่าทรัพย์พิพาทเป็นของจำเลยไม่ใช่มรดก จึงพิพากษาไม่ใช่แบ่งนั้น ถ้าโจทก์บางคนอุทธรณ์ขอให้แบ่งส่วนโจทก์บางคนไม่อุทธรณ์ ยินยอมตามคำพิพากษา ดังนี้ถ้าศาลอุทธรรณ์เห็นว่า ทรัพย์พิพาทตกเป็นมรดก อันจะต้องแบ่งให้ทายาทแล้วศาลอุทธรณ์ก็จะพิพากษาให้แบ่งเฉพาะโจทก์ที่อุทธรณ์ขึ้นมา เท่านั้นจะพิพากษาให้โจทก์ที่มิได้อุทธรณืขึ้นมาได้รับส่วนแบ่งด้วย ไม่ได้./
ย่อยาว
คดีนี้มีปัญหาข้อกฎหมายชั้นศาลฎีกาเฉพาะเรือนหลังเหนิอ ซึ่งโจทก์ฟ้องว่าเป็นมรดกของนายทรัพย์ ขอให้เอามาแบ่ง ระหว่างทายาท
จำเลยต่อสู้ว่า เรือนพิพาทนายทรัพย์ยกให้เป็นเรือนหอของนายรวมจำเลย ๆ ครอบครองอย่างเจ้าของมา ๖ ปีเศษแล้ว ไม่เป็นมรดก
ศาลชั้นต้นไม่ให้เอาเรือนพิพาทมาแบ่งเป็นมรดกแต่ศาลอุทธรณืฟังว่าเป็นมรดก จึงพิพากษาแก้ให้เอาเรือนนี้มาแบ่งด้วย.
นายรวมจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาคงฟังว่า เรือนพิพาทเป็นมรดกของทรัพย์ ต้องเอาแบ่งให้ทายาท
ส่วนที่ศาลอุทธรณ์แบ่งให้นางกลมกับพวกโจทก์ซึ่งศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษารวมกับคดีนี้ด้วยนั้น ยังมิชอบเพราะใน ชั้นอุทธรณ์นางกลมกับพวกไม่ได้อุทธรณ์ คงยินยอมตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้ว จึงพิพากษาแก้ให้แบ่งเรือนพิพาท ตามส่วนและหักทอนดังที่ศาลอุทธรณ์กล่าวไว้แต่ชั้นนี้ ยังไม่ให้นางกลมกับพวกรับส่วนแบ่ง.