แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีก่อนโจทก์ฟ้องจำเลยกล่าวอ้างว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยไม่เป็นธรรม และมีคำขอเรียกเงินจากโจทก์หลายรายการที่เกี่ยวเนื่อง หรือเป็นผลที่เกิดจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม โดยมิได้มีคำขอเรียกค่าจ้างในวันหยุดประจำสัปดาห์และวันหยุดตามประเพณีด้วย คดีดังกล่าวอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา โจทก์ยื่นฟ้องจำเลย เป็นคดีนี้เรียกค่าจ้างในวันหยุดประจำสัปดาห์และวันหยุดตามประเพณีได้ เพราะค่าจ้างทั้งสองประเภทนี้ถือได้ว่าเป็นค่าจ้างค้างจ่าย ที่โจทก์มีสิทธิเรียกร้องจากจำเลย แม้โจทก์จำเลยจะยังมีสภาพจ้างกันอยู่ ก็ตามจึงเป็นสิทธิเรียกร้องในมูลหนี้ต่างรายกับมูลหนี้หรือสิทธิเรียกร้องเกี่ยวกับการเลิกจ้าง แม้โจทก์ได้เคยร้องขอเพิ่มเติมฟ้องในคดีก่อนและ ศาลแรงงานกลางได้มีคำสั่งให้ยกคำร้อง แต่ในชั้นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา ในคดีก่อนนั้นโจทก์ก็มิได้อุทธรณ์ในปัญหาข้อนี้ไว้ด้วยคำสั่งดังกล่าว จึงเป็นอันยุติในชั้นศาลแรงงานกลางแล้ว หาใช่อยู่ในระหว่างพิจารณา ของศาลฎีกาไม่ คำฟ้องของโจทก์คดีนี้จึงมิใช่เป็นฟ้องซ้อน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นลูกจ้างประจำของจำเลย จำเลยได้มีคำสั่งให้โจทก์ทำงานในวันหยุดประจำสัปดาห์และวันหยุดตามประเพณี ขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าทำงานในวันหยุดดังกล่าวแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า โจทก์เคยฟ้องจำเลยต่อศาลแรงงานกลางในข้อหาเลิกจ้างไม่เป็นธรรม และมีคำขอเรียกเงินอื่นหลายรายการโดยมูลเหตุจำเลยเลิกจ้างโจทก์ต่อมาโจทก์ร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้องเรื่องค่าจ้างในวันหยุดและวันหยุดพักผ่อนประจำปี ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งยกคำร้อง และโจทก์ได้คัดค้านเพื่อการใช้สิทธิอุทธรณ์ไว้ คดีดังกล่าวศาลแรงงานกลางมีคำพิพากษาแล้ว คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา สิทธิของโจทก์ควรจะอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาในเรื่องแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้อง คำฟ้องของโจทก์คดีนี้จึงเป็นฟ้องซ้อน ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า คำฟ้องของโจทก์ไม่เป็นฟ้องซ้อน พิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าจ้างทำงานในวันหยุดประจำสัปดาห์และวันหยุดตามประเพณีแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ที่โจทก์ฟ้องจำเลยในคดีก่อนโจทก์กล่าวอ้างว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยไม่เป็นธรรมและมีคำขอเรียกเงินจากโจทก์หลายรายการที่เกี่ยวเนื่องหรือเป็นผลที่เกิดจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรมนั้น โดยมิได้มีคำขอเรียกค่าจ้างในวันหยุดประจำสัปดาห์และวันหยุดตามประเพณีด้วย ซึ่งค่าจ้างทั้งสองประเภทนี้ถือได้ว่าเป็นค่าจ้างค้างจ่ายที่โจทก์มีสิทธิเรียกร้องจากจำเลยได้เมื่อโจทก์ได้ปฏิบัติงานให้แก่จำเลย และจำเลยไม่จ่ายให้แก่โจทก์แม้โจทก์จำเลยจะยังสภาพการจ้างกันอยู่ก็ตาม ซึ่งเป็นสิทธิเรียกร้องที่เกิดขึ้นตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ลงวันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๑๕ ข้อ ๓๒ กรณีจึงเป็นสิทธิเรียกร้องในมูลหนี้ต่างรายกันกับมูลหนี้หรือสิทธิเรียกร้องอันเกี่ยวกับการเลิกจ้าง แม้โจทก์ได้เคยร้องขอเพิ่มเติมฟ้องในคดีก่อนและศาลแรงงานกลางได้มีคำสั่งให้ยกคำร้องและในชั้นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาในคดีก่อนนั้นโจทก์ก็มิได้อุทธรณ์ในปัญหาข้อนี้ไว้ด้วย คำสั่งดังกล่าวจึงเป็นอันยุติในชั้นศาลแรงงานกลางแล้ว หาใช่ยังอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกาไม่ คำฟ้องของโจทก์คดีนี้จึงมิใช่ฟ้องซ้อนกับคดีก่อนอันต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๗๓ วรรคสอง (๑) ดังข้ออุทธรณ์ของจำเลยคำพิพากษาของศาลแรงงานกลางในปัญหาข้อนี้ชอบแล้ว อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน