แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
โจทก์มีหน้าที่นำสืบให้ชัดแจ้งว่าจำเลยทั้งสองไม่ได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนและไม่มีใบอนุญาตให้พาอาวุธปืนติดตัวไปในที่เกิดเหตุ เมื่อโจทก์ไม่ได้นำสืบ จึงไม่อาจฟังลงโทษจำเลยทั้งสองฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและฐานพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควรได้ คงลงโทษได้เพียงในความผิดฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และเป็นความผิดต่างกรรมกับความผิดฐานพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน และทางสาธารณะ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2546 เวลากลางคืนก่อนเที่ยงจำเลยทั้งสองร่วมกันมีอาวุธปืนลูกซองสั้นขนาดเบอร์ 12 ไม่มีเบอร์ 12 จำนวน 1 นัด ซึ่งเป็นอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่มีสภาพใช้ยิงได้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตและจำเลยทั้งสองร่วมกันพาอาวุธปืนดังกล่าวติดตัวไปบริเวณถนนกันเอง ตำบลกำแพงเพชร อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา อันเป็นเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร และจำเลยทั้งสองร่วมกันพาอาวุธมีดปลายแหลมยาวประมาณ 1 คืบ ไปบริเวณถนนกันเอง ตำบลกำแพงเพชร อำเภอรัตนภูมิ จังหวัดสงขลา อันเป็นเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร จากนั้นจำเลยทั้งสองร่วมกันใช้อาวุธปืนดังกล่าวยิงนายสุนทร สุขเจริญ ผู้เสียหายที่ 1 จำนวน 1 นัด โดยเจตนาฆ่าและร่วมกันใช้มีดปลายแหลมแทงนายสันติ สุขเจริญ ผู้เสียหายที่ 2 บริเวณช่องท้องอันเป็นอวัยวะสำคัญหลายครั้งโดยมีเจตนาฆ่า จำเลยทั้งสองลงมือกระทำไปโดยตลอดแล้ว แต่การกระทำไม่บรรลุผลเนื่องจากมีผู้ปัดกระบอกปืน ทำให้กระสุนปืนเฉี่ยวลำคอผู้เสียหายที่ 1 และแพทย์ช่วยทำการรักษาผู้เสียหายที่ 2 ไว้ทัน ผู้เสียหายทั้งสองจึงไม่ถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33, 80, 83, 91, 288, 371 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 7, 8 ทวิ, 72, 72 ทวิ และริบของกลาง
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371, 288 ประกอบมาตรา 80 (ที่ถูกประกอบมาตรา 80, 83) พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 7, 8 ทวิ วรรคหนึ่ง, 72 วรรคสาม, 72 ทวิ วรรคสอง เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ขณะกระทำความผิดจำเลยที่ 1 และที่ 2 มีอายุ 17 ปี และ 16 ปีเศษ ลดมาตราส่วนโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76, 75 (ที่ถูก ขณะกระทำความผิดจำเลยที่ 1 อายุ 17 ปีเศษ จำเลยที่ 2 อายุ 16 ปีเศษ เห็นสมควรลดมาตราส่วนโทษให้จำเลยที่ 1 กึ่งหนึ่ง และลดมาตราส่วนโทษให้จำเลยที่ 2 กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 และ 75) ฐานพยายามฆ่าผู้อื่นจำคุกคนละ 5 ปี ฐานมีอาวุธปืน จำคุกคนละ 1 ปี และฐานพาอาวุธปืน ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ซึ่งเป็นบทหนัก (ที่ถูก ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด) ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุกคนละ 6 เดือน รวมจำคุกคนละ 6 ปี 6 เดือน อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2534 มาตรา 104 (2) ให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นส่งจำเลยทั้งสองไปฝึกอบรม (ที่ถูก ไปควบคุมเพื่อฝึกและอบรม) ที่ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 9 (จังหวัดสงขลา) มีกำหนดขั้นต่ำ 1 ปี 6 เดือน ขั้นสูง 2 ปี นับแต่วันพิพากษา ริบปลอกกระสุนปืนของกลาง คำขออื่นให้ยก
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 9 แผนกคดีเยาวชนและครอบครัวพิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 2 ยังมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 อีกกระทงหนึ่ง สำหรับความผิดฐานพาอาวุธ ลดมาตราส่วนโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 75 แล้ว ปรับ 50 บาท รวมกับโทษในความผิดฐานร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นเป็นจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 5 ปี และปรับ 50 บาท ไม่ชำระค่าปรับให้ส่งตัวจำเลยที่ 2 ไปควบคุมเพื่อฝึกและอบรมยังศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 9 (จังหวัดสงขลา) มีกำหนด 1 วัน ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2534 มาตรา 107 ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยทั้งสองในความผิดฐานมีและพาอาวุธปืน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีเยาวชนและครอบครัววินิจฉัยว่า “มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและฐานพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควรตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นหรือไม่ โจทก์ฎีกาอ้างว่า ข้อเท็จจริงฟังยุติว่า จำเลยทั้งสองยังไม่บรรลุนิติภาวะซึ่งนายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้มีและพาอาวุธปืนได้ตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 13 ที่ห้ามมิให้ออกใบอนุญาตตามความในหมวดนี้แก่… (4) บุคคลซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะ โจทก์จึงไม่มีหน้าที่นำสืบถึงข้อเท็จจริงเพื่อสนับสนุนคำฟ้องในส่วนนี้ของโจทก์นั้น เห็นว่า ตามบทบัญญัติประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 19 บัญญัติว่า บุคคลย่อมพ้นจากภาวะผู้เยาว์และบรรลุนิติภาวะเมื่อมีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ และมาตรา 20 บัญญัติว่า ผู้เยาว์ย่อมบรรลุนิติภาวะเมื่อทำการสมรส หากการสมรสนั้นได้ทำตามบทบัญญัติมาตรา 1448 จากบทบัญญัติดังกล่าวย่อมมีความหมายว่า นอกจากผู้เยาว์จะบรรลุนิติภาวะโดยอายุแล้ว ผู้เยาว์อาจบรรลุนิติภาวะโดยการสมรสตามบทบัญญัติมาตรา 1448 ได้ ดังนั้นโจทก์ต้องมีหน้าที่นำสืบให้ชัดแจ้งว่าจำเลยทั้งสองไม่ได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนและไม่มีใบอนุญาตให้พาอาวุธปืนติดตัวไปในที่เกิดเหตุ เมื่อโจทก์ไม่ได้นำสืบว่าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่จำเลยทั้งสองใช้ในการกระทำความผิดจำเลยทั้งสองไม่ได้รับอนุญาตให้มีและใช้และพาติดตัวได้ตามกฎหมาย จึงไม่อาจฟังลงโทษจำเลยทั้งสองฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและฐานพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควรได้ คงลงโทษได้เพียงในความผิดฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และเป็นความผิดต่างกรรมกับความผิดฐานพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร แต่เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาว่าความผิดฐานพาอาวุธมีดเป็นกรรมเดียวกับความผิดฐานพาอาวุธปืน และโจทก์มิได้อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 2 เป็น 2 กรรม ศาลฎีกาแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวจึงไม่อาจแก้ไขเรื่องโทษให้ถูกต้องได้ เพราะจะเป็นการเพิ่มเติมโทษจำเลยที่ 2 ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 9 แผนกคดีเยาวชนและครอบครัวพิพากษามานั้น ศาลฎีกาแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวเห็นพ้องด้วยบางส่วน ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสองยังคงมีความผิดฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 ลดมาตราส่วนโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 ลดมาตราส่วนโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76, 75 ปรับคนละ 50 บาท รวมลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นและพาอาวุธปืน รวมจำคุก 5 ปี และปรับ 50 บาท รวมลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น พาอาวุธมีดและอาวุธปืนเป็นจำคุก 5 ปี และปรับ 50 บาท ไม่ชำระค่าปรับให้ส่งตัวจำเลยทั้งสองไปควบคุมเพื่อฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 9 (จังหวัดสงขลา) มีกำหนด 1 วัน ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2534 มาตรา 107 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 9 แผนกคดีเยาวชนและครอบครัว