คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 450/2495

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ซื้อขายที่ดินมีโฉนดแก่กันได้มอบที่ดินและโฉนดให้ผู้ซื้อยึดถือครอบครองแล้ว ฝ่ายผู้ซื้อก็ชำระราคาแล้ว สัญญาว่าจะไปโอนทะเบียนกันภายใน 1 เดือน แต่แล้วก็ไม่ได้ไปโอนกัน ฝ่ายผู้ซื้ก็คงครอบครอง
ที่ดินโดยเจตนาเป็นเจ้าของด้วยความสงบแลเปิดเผยมาถึง 24 ปี ดังนี้ ฝ่ายผู้ซื้อขายกันนี้ แล้ว ฉะนั้นแม้ภายหลังผู้ซื้อและผู้ขายได้ถึงแก่กรรมทั้งสองฝ่าย ทายาทของผู้ซื้อก็มีสิทธิฟ้องให้ถอนชื่อในโฉนดโอนทะเบียนใส่ชื่อทายาทผู้ซื้อได้ ไม่ใช่เรื่องขาดอายุความและสิทธิเรียกร้องตามป.ม.แพ่งฯมาตรา 163, 164, 169

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อ ๒๔ ปีมานี้ บิดามารดาจำเลยได้ตดลงจะขายที่นาโฉนดที่พิพาทให้แก่บิดาโจทก์ ๗๕๐ บาท ได้ชำระเงินไปแล้ว ได้มอบนาและโฉนดให้ครอบครองและยึดถือ สัญญาว่าจะไปโอนกรรมสิทธิถภายใน ๑ เดือน แล้วหาได้ไปโอนให้ไม่ บิดาโจทก์ได้ครอบครองโดยเจตนาเป็นเจ้าของด้วยความสงบและเปิดเผยมาจนถึงแก่ความตายเมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๐ โจทก์เป็นผู้รับมรดกได้ครอบครองติดต่อจากบิดารวมเป็นเวลา ๒๔ ปี ได้กรรมสิทธิในที่รายนี้ ส่วนบิดามารดาจำเลยก็ได้ตายไปแล้ว บัดนี้โจทก์ขอให้จำเลยไปจัดการบิดพริ้วไม่ยอมโอนให้โจทก์ แต่โฉนดและนายังคงยึดถือ
ครอบครองมาตาเดิม จึงขอให้ศาลบังคับจำเลยให้โอนนารายนี้ให้แก่โจทก์
จำเลยต่อสู้ว่า บิดาจำเลยไม่เคยขายนารายนี้หากจะได้ทำสัญญาซื้อขายกันจริง ก็เกิน ๑๐ ปี ขาดสิทธิเรียกร้อง ฯลฯ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า สัญญารายนี้เป็นเพียงสัญญาจะซื้อขาย เพราะยังไม่ได้จัดการโอนทะเบียนกัน นับแต่วันทำสัญญาจนถึงวันฟ้องเป็นเวลาประมาณ ๒๓ ปีแล้ว ๑๖๓, ๑๖๔, และ ๑๖๙
โจทก์อุทธรณ
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์โอนใส่ชื่อโจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ ฯลฯ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้เป็นเรื่องฝ่ายโจทก์ครอบครองที่ดินจนได้กรรมสิทธิ โดยกรรมสิทธิแห่งที่ดินรายนี้ได้ตกอยู่แก่โจทก์แล้ว หากเพียงแต่มิได้โอนใส่ชื่อโจทก์ในโฉนดให้ปรากฎว่าเป็นเจ้าของ คดีไม่ใช่เรื่องมรดกหรือเรื่องซื้อขาย แต่นั่นเป็นเพียง++ของกรณีที่สืบเนื่องกันมา ข้อที่จำเลยยกอายุความเรื่องสัญญาซื้อขายและมรดกมาตัด จึงฟังไม่ขึ้น ศาลอุทธรณ์ พิพากษาชอบแล้ว
จึงพิพากษายืน

Share