แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สลากกินแบ่งของรัฐบาลจัดว่า เป็นทรัพย์สินชะนิดหนึ่งซึ่งซื้อขายเปลียนมือกันได้ ผู้ใดถือสลากย่อมถือว่าผู้นั้นเป็นเจ้าของ เว้นแต่าจะมีเหตุผลแสดงให้เห็นว่า ผู้นั้นมีไว้โดยไม่สุจริต
ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลจากผู้มีอาชีพทางค้าขายสลากกินแบ่งโดยสุจริต ไม่ทราบว่า เป็นสลากของผู้อื่นที่รับไปาจำหน่ายแล้วศูนย์หายไป โดยเจ้าของได้แจ้งความและอาศัยกับสำนักงานสลากกินแบ่งไว้แล้ว ดังนี้ พออนุโลมเข้า ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1332 ผู้ซื้อย่อมมีสิทธิได้รับรางวัล เมื่อสลากถูกรางวัล
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อไปจำหน่าย ๑๕ เล่ม ระหว่างทางเรือล่ม สลากศูนย์หายไปทั้งหมด ได้แจ้งความและอายัติต่อสำนักงานสลากกินแบ่งแล้ว ต่อมาปรากฎว่าสลากที่ศูนย์หายนั้นถูกรางวัลที่ ๗ ฉะบับ จำเลยนำมาขอรับเงินรางวัลต่อสำนักงานสลากกินแบ่ง ๓ ฉะบับ รวมเป็นเงิน ๓๐๐๐ บาท จึงขอให้จำเลยคืนสลากกินแบ่ง ๓ ฉะบับนั้นแก่โจทก์ ฯลฯ
จำเลยต่อสู้ว่า ซื้อมาโดยสุจริต
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยย่อมได้กรรมสิทธิตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา ๑๓๓๒ เพราะจำเลยซื้อสลากมาจากผู้มีอาชีพทางค้าขายสลากกินแบ่ง และไม่มีเหตุที่จะส่อให้เห็นว่า จำเลยซื้อไว้โดยทุจริต หรือืทราบการอายัติของโจทก์ พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า สลากกินแบ่งรัฐบาลนี้ จัดว่าเป็นทรัพย์สินชะนิดหนึ่ง ซึ่งซื้อขายเปลี่ยนมือกันได้ ผู้ใดถือสลากย่อมถือว่าผู้นั้นเป็นเจ้าของ เว้นแต่จะมีเหตุแสดให้เห็นว่า ผู้นั้นมีไว้โดยไม่สุจริต แต่คดีนี้ข้อเท็จจริงมิได้ปรากฎว่าจำเลยมีสลากไว้โดยไม่สุจริตอย่างใด คดีจึงพออนุโลมเข้าใน ป.ม.แพ่งฯมาตรา ๑๓๓๒ ได้ ฯลฯ
จึงพิพากษาสยืน