คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1442/2495

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ด่าเขาว่า “อีร้อยควย อีดอกทอง ” เป็นเพียงคำด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย มิใช่เรื่องใส่ความ จึงเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทซึ่งหน้าตาม ก.ม. ลักษณะอาญามาตรา 335(2) แต่ถ้อยคำที่กล่าวตอนต่อจากนั้นว่า ” มันเย็ดกันทั่วเมือ ใครๆเขาก็รู้กันทั้งนั้น เย็ดกันรอบบ้านเย็ดกับยี่เก ฯลฯ” เหล่านี้มิใช่เป็นคำด่าว่ากันด้วยถ้วยคำหยาบคายธรรมดา แต่เป็นถ้อยคำที่ผู้ด่ากล่ายยืนยันให้เห็นว่าผู้ถูกด่าเป็นหญิงไม่ดี เที่ยวร่วมประเวณีกับคนทั่วไป โดยไม่เลือกสถานที่ จึงเป็นถ้อยคำที่ทำให้ผู้ถูกด่าเสื่อมเสียชื่อเสียง และอาจทำให้ผู้อืนดูหมิ่น เกลียดชังได้จึงเป็นการหมิ่นประมาทใส่ความตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 282 มิใช่เรื่องประมาทซึ่งหน้า
คดีหมิ่นประมาท ซึ่งโจทก์ร้องขอให้พิสูจน์ความจริง ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 284 นั้น เมื่อปรากฏว่าในชั้นต้นจำเลยปฏิเสธว่ามิได้ทำผิด จนเมื่อศาลสืบพยานไปสิ้นแล้ว จำเลยจึงกลับรับสาราพว่าได้ทำผิดตามฟ้อง ศาลสอบถามถึงเรื่องที่โจทก์ขอให้พิสูจน์ความจริง จำเลยก็แถลงว่า ไม่สามารถพิสูจน์ได้ เช่นนี้ คดีเข้าลักษณะที่ว่าศาลได้บังคับให้จำเลยพิสูจน์ความจริง แต่จำเลยพิสูจน์ให้เห็นจริงมิได้ ดั่งที่บัญญัติไว้ในมาตรา 384 แล้ว คดีจึงลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 284 ได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 3/2496)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานหมิ่นประมาทตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 282,284,335(2) และขอให้เพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบด้วย จำเลยรับสารภาพตลอดถึงข้อเพิ่มโทษด้วย แต่ศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยผิดตามมาตรา 339 ซึ่งเป็นผิดฐานลหุโทษ ยันจะเพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบไม่ได้ จึงไม่ได้กล่าวถึงการเพิ่มโทษด้วย โจทก์อุทธรณ์ว่าจำเลยควรมีผิดตามมาตรา 282 284 ในเรื่องเพิ่มโทษหรือไม่ ไม่ได้โต้เถียงกัน ดังนี้ เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยผิดตามมาตรา 282 ซึ่งอาจเพิ่มโทษตามมาตรา 72 ได้แล้ว ศาลอุทธรณ์ก็ต้องเพิ่มโทษจำเลยตามฟ้องด้วย จะถือว่าฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์ไม่ได้ขอให้เพิ่มโทษไม่ได้

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานหมิ่นประมาทตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๘๒,๒๘๔,๓๓๔(๒),๗๒
ขั้นแรกจำเลยปฏิเสธ แต่ภายหลังกลับรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า ถ้อยคำที่ด่าเป็นหมิ่นประมาณทซึ่งหน้าเท่านั้น จึงพิพากษาว่าจำเลยผิดเพียงตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๓๓๔ เท่านั้น
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา ๒๘๒
โจทก์และจำเลยฏีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า เฉพาะคำว่า ” อีร้อยควย อีดอกทอง ” นั้นเป็นเพียงคำด่ากันด้วยถ้อยคำหยาบคาย มิใช่เป็นการใส่ความ คำด่าเช่นนี้เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทซึ่งหน้ำ ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๓๓๕ แต่ถ้อยคำที่จำเลยกล่าวว่าต่อจากนั้นว่า “มันเย็ดกันทั่วเมือง ใครๆเขาก็รู้กันทั้งนั้น เย็ดกันรอบบ้าน เย็ดกับยี่เก ฯลฯ” เหล่านี้มีใช่คำด่ากันด้วยถ้อยคำหยาบคายธรรมดา แต่เป็นถ้อยคำที่จำเลยกล่าวยืนยันให้เห็นว่า น.ส. อารมณ์ลาภเป็นหญิงไม่ดี เที่ยวร่วมประเวณีกับคนทั่วไป โดยไม่เลือกสถานที่ ถ้อยคำดับนี้ทำให้ น.ส อารมณ์ลาภเสื่อมเสียชื่อเสียง และอาจทำให้คนอื่นดูหมิ่นเกลียดชังได้ จึงเป็นการหมิ่นประมาทใส่ความตามมาตรา ๒๘๒ มิใช่เรื่องหมิ่นประมาทซึ่งหน้า
ส่วนในปัญหา ว่าจะลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๘๔ ได้หรือไม่นั้น ศาลฏีกาได้วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่แล้ว เห็นว่า คดีนี้ในชั้นต้นจำเลยปฏิเสธว่ามิได้ทำผิด จนเมื่อศาลสืบพยานไปสิ้นแล้ว จำเลยจึงกลับรับสารภาพว่าได้ทำผิดตามฟ้อง ศาลสอบถามถึงเรื่องที่โจทก์ ขอให้พิสูจน์ความจริง จำเลยก็แถลงว่าไม่สามารถจะพิสูจน์ได้ คดีจึงเข้าลักษณะที่ว่าศาลได้บังคับให้จำเลยพิสูจน์ความจริง แต่จำเลยพิสูจน์ให้เห็นจริงมิได้ ดั่งที่บัญญัตืไว้ในมาตรา ๒๘๔ แล้ว คดีจึงลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๘๔ ได้
ในข้อเพิ่มโทษจำเลยตามมาตรา ๗๒ นั้นโจทก์ได้ขอมาก ทั้งจำเลยก็รับสารภาพ แต่หากศาลชั้นต้นชี้ขาดว่าจำเลยผิดตามมาตรา ๓๓๙ อันเป็นความผิดฐานลหุโทษ ซึ่งจะเพิ่มโทษไม่ได้ ศาลชั้นต้นจึงไม่ได้กล่าวถึงการเพิ่มโทษด้วย ในชั้นอุทธรณ์ก็มีข้อโต้เถียงกันว่า ความผิดของจำเลยจะเป็นความผิดตามาตรา ๓๓๙ หรือเมตตรา ๒๘๒ ในเรื่องเพิ่มโทษหรือไม่ ไม่โต้เถียงกันแล้ว ฉะนั้นเมื่อศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยผิดฐานหมิ่นประมาทตามมาตรา ๒๘๒ ซึ่งอาจเพิ่มโทษตามมาตรา ๗๒ ได้แล้ว ก็ต้องเพิ่ม โทษจำเลยตามฟ้องด้วย จะถือว่าฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์ก็ไม่ได้ขอให้เพิ่มโทษไมได้
จึงพิพากษาแก้ว่า จำเลยผิดตามมาตรา ๒๘๔ ให้จำคุกจำเลย ๓ เดือน ปรับ ๔๐๐ บาท เพิ่มโทษตามมาตรน ๗๒ อีก ๑ ใน ๓ แต่ควรลดโทษเพราะรับสารภาพเสีย ๑ ใน ๓ โทษเพิ่มโทษลดเท่ากัน หักกลบลบกันไป และให้รอการลงอาญาโทษจำคุกไว้ภายในกำหนด ๓ ปี ฯลฯ

Share