คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4371/2531

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายที่ดินและห้องแถวพิพาทระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ซึ่งจำเลยที่ 2 ให้การเพียงว่าจำเลยที่ 2 ไม่เคยรู้จักกับโจทก์ จึงไม่มีประเด็นข้อพิพาทว่า จำเลยที่ 1 ได้โอนขายที่ดินและห้องแถวพิพาทให้จำเลยที่ 2 โดยจำเลยทั้งสองรู้อยู่ว่าทำให้โจทก์เสียเปรียบดังโจทก์ฟ้องหรือไม่และศาลชั้นต้นก็มิได้กำหนดประเด็นข้อพิพาทนี้ไว้ ซึ่งจำเลยที่ 2ก็ไม่ได้โต้แย้งคัดค้าน จำเลยที่ 2 จึงไม่มีสิทธิฎีกาประเด็นนี้เพราะเป็นข้อที่ไม่ได้ว่ากล่าวกันมาแต่ในศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการซื้อขายที่ดินพร้อมห้องแถวระหว่างจำเลยที่ 1 และที่ 2 ให้จำเลยที่ 1 โอนทรัพย์ดังกล่าวให้แก่โจทก์ตามสัญญาจะซื้อขาย จำเลยที่ 1 ให้การว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความจำเลยที่ 2 ให้การว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความเช่นกัน และจำเลยที่ 2ไม่รู้จักโจทก์ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 คืนมัดจำ 5,000 บาทและใช้ค่าเสียหาย 30,000 บาท ส่วนจำเลยที่ 2 ให้ยกฟ้องโจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายตามฟ้อง และให้จำเลยที่ 1 โอนที่ดินและห้องแถวให้โจทก์หากจำเลยทั้งสองไม่ปฏิบัติตามให้จำเลยที่ 1 คืนมัดจำ 5,000 บาท และใช้ค่าเสียหาย 45,000 บาท จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหามาสู่ศาลฎีกาเฉพาะจำเลยที่ 2เพียงคนเดียว คดีสำหรับจำเลยที่ 1 คงยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ให้จำเลยที่ 1 โอนขายที่ดินและห้องแถวพิพาทให้แก่โจทก์โดยไม่มีฝ่ายใดฎีกา จำเลยที่ 2 ฎีกาขอให้ยกฟ้องเกี่ยวกับจำเลยที่ 2ที่โจทก์ฟ้องให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายที่ดินและห้องแถวพิพาทระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ข้อนี้ได้ความว่าจำเลยที่ 2ให้การต่อสู้คดีเพียงว่า จำเลยที่ 2 ไม่เคยรู้จักกับโจทก์ จึงไม่มีประเด็นข้อพิพาทว่าจำเลยที่ 1 ได้โอนขายที่ดินและห้องแถวพิพาทให้จำเลยที่ 2 โดยจำเลยทั้งสองรู้อยู่ว่าทำให้โจทก์เสียเปรียบดังโจทก์ฟ้องหรือไม่ และศาลชั้นต้นก็ไม่ได้กำหนดประเด็นข้อพิพาทดังกล่าวไว้ในชั้นชี้สองสถาน ซึ่งจำเลยที่ 2 ก็ไม่ได้โต้แย้งคัดค้านแต่ประการใด ดังนั้นเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยที่ 2 แพ้คดีโจทก์ในประเด็นที่กล่าวแล้ว จำเลยที่ 2 จึงไม่มีสิทธิฎีกาในประเด็นนี้ต่อไป เพราะเป็นข้อที่ไม่ได้ว่ากล่าวกันมาแต่ในศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 เมื่อเป็นดังนี้ที่จำเลยที่ 2 ฎีกาว่า การรับฟังข้อเท็จจริงตามหนังสือสัญญาจะซื้อขายตามเอกสารหมาย จ.1 ซึ่งเป็นสัญญาระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ไม่นอกประเด็นก็ดีและการที่ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาโดยไม่อาศัยมูลคดีจากเอกสารหมาย จ.1 และหากอ้างมูลคดีตามเอกสารหมาย จ.1 ไม่ได้ โจทก์ก็ย่อมอ้างไม่ได้ด้วย ซึ่งมีผลให้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 2 ก็ดี จึงไม่เป็นผลแก่คดีของจำเลยที่ 2 แต่ประการใดทั้งสิ้น ศาลฎีกาไม่วินิจฉัยให้”
พิพากษายกฎีกาจำเลยที่ 2

Share