แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า เนื่องจากจำเลยได้นำเงินไปชำระหนี้ให้แก่โจทก์เรียบร้อยแล้ว โจทก์จึงขอถอนฟ้องฎีกา โปรดอนุญาต
หมายเหตุ จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 แถลงท้ายคำร้องไม่คัดค้าน(อันดับ 135)
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้นายปรีชาจำเลยที่2และนางสมรจำเลยที่ 3 ในฐานะผู้แทนโดยชอบธรรมของบุตร 4 คน (ดังที่โจทก์กล่าวในฟ้อง) ซึ่งเป็นทายาทของนายปรีดีเจียรสวัสดิ์วัฒนาผู้ตายและนางศรีเรือนมณีรัตน์ จำเลยที่ 4 ในฐานะผู้แทนโดยชอบธรรมของบุตรสองคน (ดังที่โจทก์กล่าวในฟ้อง) ซึ่งเป็นทายาทของผู้ตายร่วมกันชำระหนี้กองมรดกของนายปรีดีเจียรสวัสดิ์วัฒนา ผู้ตายแก่โจทก์เป็นจำนวนเงิน 85,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 14 ต่อปี ในต้นเงินดังกล่าว นับตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2523(ถัดจากวันตาย) เป็นต้นมา จนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น ถ้าไม่ชำระให้เอาทรัพย์สินจำนองตามฟ้องออกขายทอดตลาดมาชำระหนี้ให้โจทก์ หากไม่พอชำระหนี้ก็ให้บังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินอื่นอันเป็นกองมรดกของผู้ตายจนกว่าจะหมดหนี้ ฯลฯ
โจทก์อุทธรณ์
ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ โจทก์ขอถอนอุทธรณ์เฉพาะจำเลยที่ 4 ศาลอุทธรณ์อนุญาต จำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่ 4 ออกจากสารบบความของศาลอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 2 ในฐานะผู้จัดการมรดกจำเลยที่ 3 ในฐานะผู้แทนโดยชอบธรรมของบุตร 4 คนซึ่งเป็นทายาทของผู้ตาย ร่วมกันชำระหนี้ของกองมรดกนายปรีดี เจียรสวัสดิ์วัฒนา ผู้ตายแก่โจทก์เป็นเงิน 85,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปีในต้นเงินดังกล่าว นับแต่วันที่ 31 มีนาคม 2523 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จสิ้นโดยไม่ทบต้นถ้าไม่ชำระให้เอาทรัพย์สินจำนองตามฟ้องออกขายทอดตลาดมาชำระหนี้โจทก์ หากไม่พอให้บังคับเอาจากทรัพย์อื่นอันเป็นกองมรดกของผู้ตายจนกว่าจะครบ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา (อันดับ 130)
ศาลฎีกาทำคำพิพากษาเสร็จและได้ส่งไปยังศาลชั้นต้นเพื่อนัดคู่ความฟังแล้ว
ก่อนวันนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา โจทก์ยื่นคำร้องดังกล่าว(อันดับ 134)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว อนุญาตให้โจทก์ถอนฎีกา คืนค่าขึ้นศาลให้โจทก์สามในสี่จำหน่ายคดีออกเสียจากสารบบความ