แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ได้อ้างในฎีกาแล้วว่าอัยการสูงสุดลงลายมือชื่อในหนังสือรับรองที่แนบท้ายฎีกาว่ามีเหตุอันควรที่ศาลสูงสุดจะได้วินิจฉัย เมื่อหนังสือรับรองดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของฎีกาโจทก์ จึงถือได้ว่าอัยการสูงสุดได้ลงลายมือชื่อรับรองในฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 แล้ว ส่วนหนังสือรับรองของอัยการสูงสุดที่รับรองฎีกาของโจทก์ร่วมว่ารูปคดีมีเหตุอันควรที่ศาลฎีกาจะได้วินิจฉัยนั้นแม้โจทก์ร่วมจะมิได้ยื่นพร้อมฎีกาของโจทก์ร่วม แต่เมื่อข้อความในหนังสือรับรองดังกล่าวแสดงให้เห็นชัดเจนว่าอัยการสูงสุดได้พิจารณาฎีกาของโจทก์ร่วมที่ยื่นต่อศาลแล้วว่ามีเหตุอันควรที่ศาลฎีกาจะได้วินิจฉัย จึงรับรองให้โจทก์ร่วมฎีกาเช่นนี้ กรณีถือได้ว่ามีการรับรองให้ฎีกาโดยชอบด้วยบทบัญญัติมาตรา 221 ดังกล่าวแล้วเช่นกัน ศาลฎีกาจึงชอบที่จะวินิจฉัยฎีกาของโจทก์และโจทก์ร่วมได้ บริษัทนำเข้าและส่งออกผลิตภัณฑ์พื้นเมืองและผลิตภัณฑ์จากสัตว์แห่งประเทศจีน (ChinaNationalNativeProduceandAnimalByProductsImportandExportCorporationFujianTeaBranch) ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตราดอกทานตะวันไว้ที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนเพื่อใช้กับผลิตภัณฑ์ชากลิ่นมะลิขนาด 113 กรัม หมายเลข 1046โจทก์ร่วมเป็นตัวแทนจำหน่ายใบชาของบริษัทดังกล่าวแต่ผู้เดียวในประเทศไทย ทั้งโจทก์ร่วมและจำเลยที่ 1 ได้รับอนุญาตให้นำเข้าหรือสั่งอาหารเข้ามาในราชอาณาจักรและขึ้นทะเบียนตำรับอาหารเข้ามาในราชอาณาจักร แต่เมื่อจำเลยทั้งสองไม่ได้ร่วมกันปลอมเครื่องหมายการค้าและจำหน่ายใบชาที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมตามฟ้องและจำเลยที่ 1 เคยสั่งใบชากลิ่นมะลิ ตราดอกทานตะวัน ขนาด 113 กรัม หมายเลข 1046จากบริษัทนำเข้าและส่งออกผลิตภัณฑ์พื้นเมืองและผลิตภัณฑ์จากสัตว์แห่งประเทศจีน ส่งผ่านเมืองฮ่องกงเช่นเดียวกับโจทก์ร่วม เครื่องหมายการค้าของใบชาที่จำเลยที่ 1 นำเข้ามาดังกล่าวจึงเป็นเครื่องหมายการค้าที่แท้จริงของผู้ผลิตใบชาหาใช่เครื่องหมายการค้าปลอมไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 273, 275 และ 83 ริบของกลาง และนับโทษจำเลยทั้งสองต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 3241/2534 ของศาลแขวงตลิ่งชันและคดีอาญาหมายเลขดำที่ 12565/2534 ของศาลแขวงพระนครใต้
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเป็นบุคคลเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ
ระหว่างพิจารณา บริษัทเล่งหงษ์อิมปอร์ต-เอ็กซ์ปอร์ต (1975)จำกัด ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์และโจทก์ร่วมอุทธรณ์ โดยอัยการสูงสุดรับรองให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์และโจทก์ร่วมฎีกา โดยอัยการสูงสุดรับรองให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยทั้งสองโต้แย้งมาในคำแก้ฎีกาว่าการที่อัยการสูงสุดมิได้ลงลายมือชื่อรับรองในฎีกา แต่ทำหนังสือรับรองต่างหากเป็นการไม่ชอบ ผิดเงื่อนไขที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 บัญญัติไว้ ไม่ชอบที่ศาลฎีกาจะวินิจฉัยให้นั้นเห็นว่า หนังสือรับรองของอัยการสูงสุดที่โจทก์ยื่นพร้อมฎีกาถือได้ว่าเป็นการรับรองตามความประสงค์ของกฎหมายแล้วเพราะโจทก์ได้อ้างในฎีกาแล้วว่าอัยการสูงสุดลงลายมือชื่อในหนังสือรับรองที่แนบท้ายฎีกาว่ามีเหตุอันควรที่ศาลสูงสุดจะได้วินิจฉัยหนังสือรับรองดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของฎีกาโจทก์ จึงถือได้ว่าอัยการสูงสุดได้ลงลายมือชื่อรับรองในฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 แล้ว ส่วนหนังสือรับรองของอัยการสูงสุดลงวันที่ 6 กันยายน 2539 ที่รับรองฎีกาของโจทก์ร่วมว่ารูปคดีมีเหตุอันควรที่ศาลฎีกาจะได้วินิจฉัยนั้น แม้โจทก์ร่วมจะมิได้ยื่นพร้อมฎีกาของโจทก์ร่วมลงวันที่ 22 สิงหาคม 2539แต่ข้อความในหนังสือรับรองดังกล่าวแสดงให้เห็นชัดเจนว่าอัยการสูงสุดได้พิจารณาฎีกาของโจทก์ร่วมที่ยื่นต่อศาลแล้วว่ามีเหตุอันควรที่ศาลฎีกาจะได้วินิจฉัย จึงรับรองให้โจทก์ร่วมฎีกากรณีย่อมถือได้ว่ามีการรับรองให้ฎีกาโดยชอบด้วยบทบัญญัติมาตรา 221 ดังกล่าวแล้วเช่นกัน ศาลฎีกาจึงชอบที่จะวินิจฉัยฎีกาของโจทก์และโจทก์ร่วมได้ และศาลฎีกาเห็นว่า ข้อเท็จจริงที่คู่ความทุกฝ่ายไม่ได้โต้เถียงกันฟังได้ว่า บริษัทนำเข้าและส่งออกผลิตภัณฑ์พื้นเมืองและผลิตภัณฑ์จากสัตว์แห่งประเทศจีน(China National Native Produce and Animal By-ProductsImport and Export Corporation Fujian Tea Branch)ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตราดอกทานตะวันไว้ที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อใช้กับผลิตภัณฑ์ชากลิ่นมะลิขนาด 113 กรัม หมายเลข 1046 โจทก์ร่วมเป็นตัวแทนจำหน่ายใบชาของบริษัทดังกล่าวแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยตั้งแต่วันที่1 มกราคม 2531 ทั้งโจทก์ร่วมและจำเลยที่ 1 ได้รับอนุญาตให้นำเข้าหรือสั่งอาหารเข้ามาในราชอาณาจักรและขึ้นทะเบียนตำรับอาหารเข้ามาในราชอาณาจักร ในประเด็นว่าจำเลยทั้งสองกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่นั้น เห็นว่า ข้อเท็จจริงที่ได้ความจากพยานโจทก์และโจทก์ร่วมยังไม่พอฟังว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันปลอมเครื่องหมายการค้าและจำหน่ายใบชาที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมตามฟ้อง แต่กลับได้ความว่า จำเลยที่ 1 เคยสั่งใบชากลิ่นมะลิตราดอกทานตะวันและชนิดเดียวกับที่โจทก์ร่วมสั่งมาจากเมืองฮ่องกงเหมือนกัน แม้โจทก์และโจทก์ร่วมจะมีนายพงษ์อนันต์แซ่ฉั่ว นายสมเกียรติ บุญอำนวย นางสาวสุนทรี ชาตวนิชนายเซี่ยมกิม แซ่ลิ้ม นายปราโมทย์ อุนแสงจันทร์ นายเทียนชัยเอกตรีภพอนันต์ และนางสาววันดี แซ่โค้ว มาเบิกความเป็นพยานข้อเท็จจริงก็คงฟังได้เพียงว่า พยานโจทก์และโจทก์ร่วมดังกล่าวเคยซื้อใบชากลิ่นมะลิตราดอกทานตะวันขนาด 113 กรัม หมายเลข 1046จากจำเลยที่ 1 ซึ่งมีรสชาติไม่เหมือนเดิมเท่านั้น ข้อเท็จจริงในส่วนนี้ก็ไม่พอฟังว่าจำเลยทั้งสองกระทำความผิดตามฟ้องอีกเช่นกัน และข้อเท็จจริงเชื่อได้ว่า จำเลยที่ 1 เคยสั่งใบชากลิ่นมะลิตราดอกทานตะวัน ขนาด 113 กรัม หมายเลข 1046จากบริษัทนำเข้าและส่งออกผลิตภัณฑ์พื้นเมืองและผลิตภัณฑ์จากสัตว์แห่งประเทศจีน ส่งผ่านเมืองฮ่องกงเช่นเดียวกับโจทก์ร่วมเครื่องหมายการค้าของใบชาที่จำเลยที่ 1 นำเข้ามาดังกล่าวจึงย่อมเป็นเครื่องหมายการค้าที่แท้จริงของผู้ผลิตใบชาหาใช่เครื่องหมายการค้าปลอมไม่ จำเลยทั้งสองจึงไม่มีความผิดตามฟ้อง
พิพากษายืน