แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พรรคการเมืองสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้แทนราษฎรไม่ได้ จึงไม่ใช่ผู้เสียหายอันมีสิทธิที่จะยื่นคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมในความผิดตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นข้าราชการประจำมีตำแหน่งเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้บังอาจใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่กระทำตนอันเป็นอุปการะแก้ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครสวรรค์ในนามพรรคการเมืองพรรคเสรีนังคศิลา อันเป็นโทษแก่การเลือกตั้งแก่โจทก์ โดยกล่าวว่าบ้านเมืองจะเจริญได้ต้องเลือกพรรคนังศิลา โจทก์สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนจังหวัดนครสวรรค์ในนามพรรคประชาธิปัตย์ร่วมกับพวก ๓ คน
ศาลชั้นต้นไต่สวนมีมูลประทับฟ้อง
พรรคประชาธิปัตย์โดยนายใหญ่ ศวิตชาติ เลขาธิการพรรคยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นพรรคการเมืองถูกต้องตามกฎหมาย ได้รับความเสียหายโดยผู้ร้องส่งผู้สมัครเข้ารับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน ฯ ในจังหวัดนครสวรรค์ ๔ นาย ผลแห่งการกระทำของจำเลยทำให้ผู้สมัครไม่ได้ ๓ นาย จึงร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องโดยวินิจฉัยว่าพรรคการเมืองมิใช่นิติบุคคลไม่มีอำนาจดำเนินคดีอาญาดังบุคคลธรรมดา
ผู้ร้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ผู้สมัครรับเลือกตั้งต้องเป็นบุคคลธรรมดา ไม่ใช่นิติบุคคลเพราะต้องมีคุณสมบัติตาม มาตรา ๑๗ ไม่ขาดคุณสมบัติตาม มาตรา ๒๐ และไม่ต้องห้ามตาม มาตรา ๑๙ แห่งพ.ร.บ.เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน ฯ พ.ศ.๒๔๙๙ เมื่อผู้ร้องเป็นนิติบุคคล ไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง จึงไม่ใช่ผู้เสียหายอันมีสิทธิที่จะยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ได้ พิพากษายืน