คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2275/2521

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การขอทุเลาการบังคับระหว่างอุทธรณ์ เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่ง อนุญาตให้ทุเลาการบังคับคดีแล้ว ก็เป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์โดยเฉพาะ คู่ความจะฎีกาต่อไปไม่ได้แต่เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งแล้ว คู่ความได้ปฏิบัติถูกต้องตามคำสั่งหรือไม่นั้น มิใช่เป็นคำสั่งในเรื่องการทุเลาการบังคับคดี คู่ความชอบที่จะฎีกาได้
ศาลชั้นต้นอ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์ให้จำเลยฟัง เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2520 โดยกำหนดให้จำเลยนำหลักทรัพย์มาวางศาล ศาลชั้นต้นได้นัดพิจารณาหลักทรัพย์ถึง 3 ครั้ง จนเป็นที่พอใจ และจำเลยได้นำหนังสือค้ำประกันยื่นต่อศาลเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2520 ล่วงพ้นเวลาที่จำเลยจะต้องนำเงินค่าเสียหายรายเดือน ๆ แรกตามคำสั่งของศาลอุทธรณ์มาวางศาล การที่จำเลยนำเงินค่าเสียหายเดือนแรกและเดือนต่อไป (เดือนตุลาคมและพฤศจิกายน) รวม 2 เดือนมาวางในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2520 เนื่องจากวันที่ 5 และ 6 ตรงกับวันหยุดราชการ จึงเป็นการปฏิบัติถูกต้องตามคำสั่งเรื่องทุเลาการบังคับคดีของศาลอุทธรณ์แล้ว

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกไปจากที่ดินในส่วนที่จำเลยเช่า โดยให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดออกไปด้วย และให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย 780 บาท กับค่าเสียหายเดือนละ600 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยและบริวารจะปฏิบัติเสร็จ

จำเลยอุทธรณ์และขอทุเลาการบังคับคดี

ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งในเรื่องการทุเลาการบังคับคดีว่า ถ้าจำเลยหาประกันสำหรับค่าเสียหายที่จะต้องชำระตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นนับถึงวันที่ทราบคำสั่งนี้มาวางศาลจนเป็นที่พอใจและภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ก็อนุญาตให้ทุเลาการบังคับคดีไว้ในระหว่างอุทธรณ์ ส่วนค่าเสียหายรายเดือนต่อไปให้จำเลยนำมาวางศาลภายในวันที่ 5 ของทุก ๆ เดือน หากผิดนัดเดือนใดก็ไม่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับต่อไป

ศาลชั้นต้นอ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์ให้โจทก์จำเลยฟังเมื่อวันที่ 16กันยายน 2520 และกำหนดเวลาให้จำเลยหาประกันมาวางศาลกับนัดพิจารณาหลักทรัพย์รวม 3 ครั้ง ครั้งสุดท้ายวันที่ 28 ตุลาคม 2520 จำเลยนำหลักทรัพย์มาวางเป็นที่พอใจและนำหนังสือค้ำประกันยื่นต่อศาล ส่วนค่าเสียหายสำหรับเดือนต่อ ๆ ไป หลังจากเดือนกันยายน จำเลยจะปฏิบัติตามคำสั่งศาลอุทธรณ์

วันที่ 7 พฤศจิกายน 2520 จำเลยนำเงินค่าเสียหายประจำเดือนตุลาคมและพฤศจิกายนมาวางศาลเดือนละ 600 บาท เพราะวันที่ 5 และ 6 ตรงกับวันเสาร์อาทิตย์หยุดราชการ

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2520 โจทก์ยื่นคำร้องว่าจำเลยจะต้องนำเงินค่าเสียหายประจำเดือนตุลาคม 2520 มาวางศาลภายในวันที่ 5 ตุลาคม2520 แต่จำเลยกลับนำมาวางศาลในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2520 เป็นการผิดนัด ขอให้บังคับคดี

ศาลชั้นต้นออกคำบังคับให้บังคับคดีภายใน 30 วัน

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกคำสั่งและเพิกถอนคำบังคับของศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งอนุญาตให้ทุเลาการบังคับคดีแล้ว ก็เป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์โดยเฉพาะ คู่ความจะฎีกาต่อไปไม่ได้ แต่เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งแล้ว คู่ความได้ปฏิบัติถูกต้องตามคำสั่งหรือไม่นั้น มิใช่เป็นคำสั่งในเรื่องทุเลาการบังคับคดี คู่ความชอบที่จะฎีกาได้ตามข้อฎีกาของโจทก์ได้ความว่า ศาลชั้นต้นอ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์ให้จำเลยฟังเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2520 โดยกำหนดให้จำเลยนำหลักทรัพย์มาวางศาล ศาลชั้นต้นได้นัดพิจารณาหลักทรัพย์ถึง 3 ครั้ง จนเป็นที่พอใจและจำเลยได้นำหนังสือค้ำประกันยื่นต่อศาลเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2520ล่วงพ้นเวลาที่จำเลยจะต้องนำเงินค่าเสียหายรายเดือน เดือนแรกตามคำสั่งของศาลอุทธรณ์มาวางศาล ฉะนั้น การที่จำเลยนำเงินค่าเสียหายเดือนแรกและเดือนต่อไป (เดือนตุลาคม และพฤศจิกายน) รวม 2 เดือน มาวางในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2520 เนื่องจากวันที่ 5 และ 6 ตรงกับวันหยุดราชการเห็นว่าเป็นการปฏิบัติถูกต้องตามคำสั่งเรื่องทุเลาการบังคับคดีของศาลอุทธรณ์แล้ว

พิพากษายืน

Share