คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 431/2521

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามคำฟ้องของโจทก์ขอให้ศาลบังคับให้จำเลยส่งมอบทรัพย์สินทั้งหมดของจ.ให้กับโจทก์ โดยอ้างว่าทรัพย์สินทั้งนั้นเป็นสินเดิมของ จ.ตกเป็นมรดก โจทก์เป็นผู้จัดการทรัพย์สินของ จ.ผู้สาบสูญตามคำสั่งศาล จะได้จัดแบ่งให้กับทายาทของ จ.ต่อไป แม้โจทก์จะอ้างว่าเป็นบุตรของ จ.ซึ่งมีฐานะเป็นทายาทของ จ.ด้วย และทรัพย์สินของ จ.ตกเป็นมรดกแต่โจทก์มิได้แสดงโดยแจ้งชัดในคำฟ้องว่า โจทก์ขอให้แบ่งมรดกให้โจทก์ในฐานะที่โจทก์เป็นทายาท และมิได้มีคำขอบังคับท้ายฟ้องเช่นนั้น ดังนั้น ศาลจะพิพากษาให้แบ่งทรัพย์สินของ จ.เป็นกรณีมรดกไม่ได้ เป็นการเกินคำขอ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 วรรคแรก และกรณีไม่เข้าข้อยกเว้นตาม (2) เพราะโจทก์มิได้ฟ้องเรียกทรัพย์มรดกเป็นของตนทั้งหมด ซึ่งศาลอาจพิพากษาให้โจทก์ได้รับแต่เพียงบางส่วนได้ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1360/2517 ประชุมใหญ่)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นบุตรของ จ.และเป็นผู้จัดการทรัพย์สินของ จ.ผู้สาบสูญตามคำสั่งศาล จำเลยเป็นผู้ครอบครองทรัพย์สินซึ่งเป็นสินเดิมของ จ.และตกเป็นมรดก ขอให้จำเลยส่งมอบทรัพย์สินทั้งหมดแก่โจทก์ เพื่อแบ่งปันแก่ทายาทต่อไป
จำเลยให้การว่า ทรัพย์สินทั้งหมดเป็นของจำเลย ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าคดีโจทก์ขาดอายุความ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเรียกมรดกมาเพื่อแบ่งปันแก่ทายาทคงมีอำนาจฟ้องขอแบ่งมรดกในฐานะทายาทเท่านั้น ทรัพย์ตามฟ้องบางส่วนเป็นมรดกของ จ. คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ พิพากษาแก้เป็นว่าให้จำเลยแบ่งทรัพย์สินให้แก่โจทก์ตามส่วนนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์และจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า ตามคำฟ้องของโจทก์ขอให้ศาลบังคับให้จำเลยส่งมอบทรัพย์สินทั้งหมดของ จ.ให้กับโจทก์โดยอ้างว่าทรัพย์สินทั้งนั้นเป็นสินเดิมของ จ.ตกเป็นมรดก โจทก์เป็นผู้จัดการทรัพย์สินของ จ.ผู้สาบสูญตามคำสั่งศาลจักได้จัดแบ่งให้กับทายาทของ จ.ต่อไป แม้โจทก์จะอ้างว่าโจทก์เป็นบุตรของ จ.ซึ่งมีฐานะเป็นทายาทของ จ.ด้วย และทรัพย์สินของ จ.ตกเป็นมรดก แต่โจทก์ก็มิได้แสดงโดยแจ้งชัดในคำฟ้องว่า โจทก์ขอให้แบ่งมรดกให้โจทก์ในฐานะที่โจทก์เป็นทายาท และมิได้มีคำขอบังคับท้ายฟ้องเช่นนั้น ดังนั้น ศาลจะพิพากษาให้แบ่งทรัพย์สินของ จ.เป็นกรณีมรดกไม่ได้ เป็นการเกินคำขอ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๔๒ วรรคแรก เทียบตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ ๑๓๖๐/๒๕๑๗ และกรณีไม่เข้า (๒) ของบทมาตราดังกล่าว เพราะโจทก์มิได้ฟ้องเรียกทรัพย์มรดกเป็นของตนทั้งหมด ซึ่งศาลอาจพิพากษาให้โจทก์ได้รับแต่เพียงบางส่วนได้
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share