แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
จำเลยอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์ลงโทษในสถานเบาหรือรอการลงโทษโดยอ้างถึงพฤติการณ์ต่าง ๆ ในคดีและความประพฤติของจำเลยข้อเท็จจริงในเอกสารดังกล่าวเป็นเพียงสนับสนุนข้ออ้างตามที่จำเลยอุทธรณ์ โจทก์มิได้แก้อุทธรณ์คัดค้านเอกสารดังกล่าวว่าไม่ถูกต้อง ดังนี้ จึงเป็นดุลพินิจของศาลอุทธรณ์ที่จะรับฟังหรือไม่รับฟังข้อเท็จจริงในเอกสารดังกล่าวทั้งไม่มีกฎมหายห้ามศาลใช้ดุลพินิจให้เป็นคุณแก่จำเลย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนพ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72 คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับที่ 44 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2519 ข้อ 6 ริบของกลางและนับโทษจำเลยติดต่อกับโทษในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 157/2530ของศาลชั้นต้น
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนพ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72 คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับที่ 44 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2519 ข้อ 6 จำคุก 1 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 6 เดือน ริบของกลาง
จำเลยอุทธรณ์ขอให้ลงโทษสถานเบา
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า รอการลงโทษจำคุกจำเลยไว้มีกำหนด 2 ปีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 และปรับจำเลย2,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงปรับ 1,000 บาท ไม่ชำระค่าปรับจัดการตามมาตรา 29, 30 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่โจทก์ฎีกาว่า การที่ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยมีอาชีพทำสวน มีความประพฤติเรียบร้อยช่วยเหลือราชการมาอย่างดี และไม่เคยต้องคดีอาญามาก่อนตามคำรับรองของหัวหน้าบ้านที่แนบมาท้ายอุทธรณ์นั้น เป็นการไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณาความ เพราะเอกสารดังกล่าวทำขึ้นหลังจากศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาแล้ว ทั้งเป็นการกล่าวอ้างขึ้นมาลอย ๆ โดยไม่มีพยานบุคคลมานำสืบรับรองจึงไม่อาจรับฟังเอกสารดังกล่าวได้พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า” คดีนี้จำเลยมิได้อุทธรณ์โต้เถียงว่าจำเลยมิได้กระทำความผิดแต่อย่างใด แต่จำเลยอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์ลงโทษในสถานเบาหรือรอการลงโทษโดยอ้างถึงพฤติการณ์ต่าง ๆ ในคดีและความประพฤติของจำเลยประกอบมาด้วยข้อเท็จจริงในเอกสารดังกล่าวที่จำเลยอ้างส่งต่อศาลอุทธรณ์นั้นมิใช่ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นในคดีโดยตรง เอกสารดังกล่าวจำเลยส่งศาลเพื่อสนับสนุนข้ออ้างในเรื่องความประพฤติของจำเลยตามที่จำเลยอุทธรณ์เท่านั้นและโจทก์มิได้แก้อุทธรณ์คัดค้านเอกสารดังกล่าวว่าไม่ถูกต้อง ดังนี้ ศาลอุทธรณ์ย่อมมีอำนาจรับฟังหรือไม่รับฟังข้อเท็จจริงในเอกสารดังกล่าวได้แล้วแต่ดุลพินิจทั้งไม่มีกฎหมายห้ามศาลมิให้ใช้ดุลพินิจให้เป็นคุณแก่จำเลยที่ศาลอุทธรณ์ใช้ดุลพินิจรับฟังข้อเท็จจริงตามเอกสารดังกล่าวจึงหาเป็นการไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณาความแต่อย่างใดไม่” แต่ที่ศาลล่างทั้งสองปรับบทลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนพ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72 โดยมิได้ระบุวรรคใดนั้น เห็นสมควรระบุเสียให้ถูกต้อง
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนพ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72 วรรคหนึ่ง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์”