แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้หากสถานที่เกิดเหตุจะอยู่ในเขตอำนาจของศาลจังหวัดพัทลุงแต่พฤติการณ์แห่งคดีเป็นกรณีที่โจทก์เชื่อว่าความผิดเกิดขึ้นในเขตอำนาจของศาลจังหวัดสงขลา ศาลจังหวัดสงขลาย่อมมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีดังกล่าวให้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 22 วรรคแรก
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๗ (๘), ๓๑๐, ๘๓, ๘๔
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง
จำเลยทั้งสิบสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเชื่อว่า เหตุคดีนี้เกิดขึ้นในเขตอำนาจศาล จังหวัดพัทลุง ศาลจังหวัดสงขลาจึงไม่มีอำนาจที่จะพิจารณาพิพากษาได้ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โจทก์เชื่อว่าที่เกิดเหตุอยู่ในเขตจังหวัดสงขลาโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องคดีต่อศาลจังหวัดสงขลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๒ พิพากษายกคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
จำเลยทั้งสิบสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาในชั้นนี้มีว่า ศาลจังหวัดสงขลามีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีนี้หรือไม่ พิเคราะห์แล้ว ฟ้องโจทก์ระบุว่า เหตุคดีนี้เกิดที่ ตำบลบ้านขาว อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วให้ประทับฟ้องโจทก์ไว้พิจารณาในชั้นพิจารณาโจทก์และพยานโจทก์ปากอื่น คือนายจรัส แก้วบัว นายสุชาติ ชูหนู และนายจรัญ สุขฉิม ก็เบิกความยืนยันว่าสถานที่เกิดเหตุคดีนี้คือ ตำบลบ้านขาว อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา พยานโจทก์ดังกล่าวทุกคนตั้งบ้านเรือนอยู่ ณ ตำบลที่เกิดเหตุนั้นเอง น่าจะทราบดีว่าสถานที่เกิดเหตุอยู่ในท้องที่ใด นอกจากนี้นายเสริม นิชญากรณ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ ๒ ตำบลบ้านขาว อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา พยานโจทก์อีกปากหนึ่งเบิกความไว้ชัดว่า บริเวณที่เกิดเหตุอยู่หมู่ ๒ ตำบลบ้านขาว อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา จึงน่าเชื่อว่าโจทก์ระบุสถานที่เกิดเหตุตามฟ้องถูกต้องแล้ว ก่อนโจทก์สืบพยานเสร็จ ฝ่ายจำเลยไม่เคยทักท้วงเลยว่าโจทก์ระบุสถานที่เกิดเหตุตามฟ้องผิดพลาดประการใด ในชั้นสืบ พยานจำเลยเพียงแต่พยานจำเลยบางคนเบิกความว่าเหตุคดีนี้เกิดที่หมู่ ๒ ตำบลทะเลน้อย อำเภอกวนขนุน จังหวัดพัทลุง ศาลชั้นต้นก็ปักใจเชื่อว่าเป็นเช่นนั้นจริง แล้วพิพากษายกฟ้อง เพราะเห็นว่าเหตุเกิดในเขตอำนาจของศาลจังหวัดพัทลุง ศาลชั้นต้นคือศาลจังหวัดสงขลาซึ่งเป็นศาลที่โจทก์ฟ้องคดีนี้ไว้ไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาเช่นนี้ คำพิพากษาของศาลชั้นต้นหาชอบไม่ แม้หากสถานที่เกิดเหตุจะอยู่ในเขตอำนาจของศาลจังหวัดพัทลุงจริงตามพฤติการณ์แห่งคดีนี้ก็เห็นได้อย่างชัดแจ้งว่า เป็นกรณีที่โจทก์เชื่อว่าความผิดเกิดขึ้นในเขตอำนาจของศาลจังหวัดสงขลา ศาลจังหวัดสงขลาจึงมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๒ วรรคแรก
พิพากษายืน