คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 425/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์จะฟ้องขอให้บังคับจำเลยถอนคำว่า เซ็นทรัล ออกจากชื่อร้านค้าของจำเลยตามใบทะเบียนพาณิชย์ไม่ได้ เนื่องจากการถอนใบทะเบียนพาณิชย์เป็นอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตามพระราชบัญญัติทะเบียนพาณิชย์ พ.ศ. 2499 มาตรา 16

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด ในการดำเนินธุรกิจโจทก์ใช้ชื่อเรียกขานเป็นภาษาไทยว่าห้างเซ็นทรัล โดยได้ใช้คำดังกล่าวเป็นชื่อเรียกขานและโฆษณาสินค้าสิ่งตีพิมพ์ของโจทก์มาตั้งแต่ พ.ศ. 2511 บริษัทที่มีชื่อ เซ็นทรัล เป็นกิจการของโจทก์แต่เพียงผู้เดียว เดิมจำเลยใช้ชื่อร้านค้าของจำเลยว่า เซ็นทรัลครั้นจำเลยได้รับหนังสือบอกกล่าวของทนายโจทก์ให้ยุติการใช้ชื่อจำเลยจึงได้จดทะเบียนพาณิชย์โดยใช้ชื่อในการประกอบการค้าว่าส.เซ็นทรัลแม่สาย เพื่อดำเนินกิจการร้านสรรพสินค้าจำหน่ายสินค้าต่าง ๆ เช่นเดียวกับโจทก์จัดจำหน่ายซึ่งอาจทำให้ประชาชน และผู้ประกอบธุรกิจห้างสรรพสินค้าเข้าใจว่า ร้านค้าหรือกิจการของจำเลยเป็นกิจการของโจทก์หรือเป็นสาขาหนึ่งของโจทก์ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้บังคับจำเลยถอนคำว่าเซ็นทรัล ออกจากชื่อร้านและใบทะเบียนพาณิชย์ของจำเลยตามทะเบียนเลขที่ 1201 หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของจำเลยและห้ามจำเลยยื่นคำขอจดทะเบียนหรือเข้าเกี่ยวข้องใด ๆ กับคำว่าเซ็นทรัล ทั้งในการเขียนและเรียกขานเป็นชื่อร้านค้าของจำเลยหรือใช้ในการประกอบการค้าของจำเลยหรือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกิจการค้าของจำเลยสืบไป
จำเลยให้การว่า จำเลยประกอบกิจการค้าโดยใช้ชื่อร้านว่าส.เซ็นทรัลแม่สาย ตามที่นายทะเบียนพาณิชย์ได้อนุญาตและจำเลยได้แสดงออกต่อสาธารณชนมาโดยตลอดว่าร้านดังกล่าวเป็นกิจการค้าของจำเลย จึงเป็นการใช้สิทธิโดยสุจริตและเป็นการใช้นามโดยชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยถอนคำว่าเซ็นทรัล ออกจากชื่อร้านค้าของจำเลยตามใบทะเบียนพาณิชย์ เลขที่ 1201 หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของจำเลยและห้ามจำเลยใช้คำว่าเซ็นทรัล เป็นชื่อหรือประกอบชื่อร้านค้าหรือกิจการค้าของจำเลย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์มีว่า จำเลยมีสิทธิในคำว่า เซ็นทรัล ประกอบชื่อร้านค้าของจำเลยได้หรือไม่เห็นว่าบริษัทโจทก์ดำเนินกิจการห้างขายสรรพสินค้านานาชนิดและมีสาขาอยู่ในกรุงเทพมหานคร โจทก์ใช้คำว่าเซ็นทรัล เป็นชื่อหลักในการเรียกขานและโฆษณาสินค้าของโจทก์มาตั้งแต่ปี 2511 เป็นที่รู้จักของประชาชนโดยทั่วไป จำเลยรู้จักห้างของโจทก์ และเคยสั่งซื้อสินค้าของห้างโจทก์ไปขายให้แก่ลูกค้าของจำเลยด้วย ข้อเท็จจริงจึงไม่น่าเชื่อว่าจำเลยกับญาติได้ช่วยกันคิดคำว่า เซ็นทรัล มาใช้กับร้านค้าของจำเลยเอง เมื่อจำเลยได้รับหนังสือของทนายโจทก์เรื่องให้จำเลยเลิกใช้คำว่า เซ็นทรัล จำเลยได้มีหนังสือถึงโจทก์ยินยอมจะปฏิบัติตามความประสงค์ของโจทก์ แต่จำเลยกลับเปิดร้านค้าแหล่งใหม่และใช้ชื่อร้านว่า ส.เซ็นทรัลแม่สาย ส่อแสดงว่าจำเลยมีเจตนาหลีกเลี่ยงที่จะไม่ใช้คำว่าเซ็นทรัล เพียงคำเดียวแต่นำไปใช้ประกอบกับ คำอื่นดังกล่าว โดยจำเลยเตรียมป้องกันเมื่อถูกโจทก์ดำเนินคดีเท่านั้น พฤติการณ์ของจำเลยดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงเจตนาของจำเลยที่จะใช้ชื่อ เซ็นทรัล ซึ่งเป็นชื่อในทางการค้าของโจทก์เพื่อจูงใจให้คนมาซื้อสินค้าจากร้านจำเลย ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อจำเลยใช้ชื่อร้านว่า ส.เซ็นทรัลแม่สายในการประกอบกิจทางการค้าและขายสินค้าหลายชนิดเช่นเดียวกับสินค้าของโจทก์ ย่อมทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดได้ว่ากิจการทางการค้าของจำเลยคือกิจการของโจทก์เป็นการนำชื่อเซ็นทรัลไปใช้โดยไม่สุจริต การกระทำของจำเลยดังกล่าวย่อมทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เพราะหากจำเลยดำเนินกิจการค้าขายสินค้าในทางไม่ดี ชื่อเสียงทางการค้าของโจทก์ย่อมพลอยเสื่อมเสียไปด้วย ซึ่งจะมีผลทำให้รายได้ในทางการค้าของโจทก์ลดน้อยลง โจทก์จึงมีสิทธิขอให้ศาลสั่งห้ามจำเลยมิให้ใช้ชื่อเซ็นทรัลในการประกอบกิจการร้านค้าของจำเลย แต่ที่โจทก์ขอให้บังคับจำเลยถอนคำว่าเซ็นทรัล ออกจากชื่อร้านค้าของจำเลยตามใบทะเบียนพาณิชย์เลขที่ 1201 นั้น เห็นว่า การถอนใบทะเบียนพาณิชย์เป็นอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ดังที่ระบุไว้ในมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติทะเบียนพาณิชย์ พ.ศ. 2499 ศาลฎีกาจึงไม่สั่งให้ตามที่โจทก์ขอ
พิพากษากลับ ให้ห้ามจำเลยใช้คำว่า เซ็นทรัล เป็นชื่อหรือประกอบชื่อร้านค้าหรือกิจการค้าของจำเลย คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก

Share