แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์โดยอ้างว่า ไม่แก้ไขอุทธรณ์ตามคำสั่งจนเลยกำหนดเวลา แล้วนั้น เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าโจทก์ ยื่นอุทธรณ์ที่แก้ไขใหม่ภายในกำหนดเวลา จึงยกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นตรวจสั่งอุทธรณ์ของโจทก์ที่ย่นมาใหม่นั้น ถือว่าเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ จำเลยจะฎีกาทันทีไม่ได้./
ย่อยาว
คดีนี้ โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้ง ๓ ฐานเบิกความเท็จ ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๑๕๖.
จำเลยทั้ง ๓ ปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์.
โจทก์อุทธรณ์, ศาลชั้นต้นสั่งให้คืนอุทธรณ์ไปแก้ไขและทำมาใหม่ภายใน ๕ วัน ครั้นครบกำหนด ยังมิได้รับอุทธรณ์ที่แก้ ไขใหม่ จึงสั่งไม่รับอุทธรณ์.
โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์ยังไม่ทราบคำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งคืนอุทธรณ์ จึงยกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นตรวจสั่ง
อุทธรณ์ที่โจทก์นำมายื่นใหม่ ตามมาตรา ๑๙๘, ๒๒๓ แห่ง ป.ม.วิ.อาญา.
จำเลยทั้ง ๓ ฎีกา
ศาลฎีกา เห็นว่า ที่ศาลอุทธรณ์ให้รับอุทธรณ์โจทก์นั้น เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา ๑๙๖ จำเลยจึง ไม่มีสิทธิฎีกาได้
ให้ยกฎีกาจำเลยเสีย./