คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 422/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เงินแป๊ะเจี๊ยะคือเงินกินเปล่า แม้จะเป็นส่วนหนึ่งของค่าเช่าแต่ก็ต้องถือว่าเป็นเงินที่โจทก์ให้แก่จำเลยเปล่า ๆ ไม่มีเจตนาจะเอาคืน เมื่อโจทก์ต้องออกจากห้องพิพาทเพราะความผิดของโจทก์ โจทก์ไม่มีสิทธิได้รับเงินแป๊ะเจี๊ยะคืน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๑๙ โจทก์ได้เช่าตึกแถวจากจำเลยมีกำหนดเวลาเช่า ๑๐ ปี จำเลยทำสัญญาเช่าให้โจทก์ ๔ ฉบับ โดยมิได้จดทะเบียนการเช่าต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ และโจทก์เสียเงินค่าแป๊ะเจี๊ยะซึ่งเป็นค่าเช่าล่วงหน้า ๑๐ ปี ให้แก่จำเลยเป็นเงิน ๘๐,๐๐๐ บาท นอกเหนือไปจากค่าเช่าซึ่งโจทก์ต้องชำระเป็นรายเดือนอีกเดือนละ ๑๕๐ บาท วันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๒๑ จำเลยบอกเลิกสัญญาเช่ารายนี้และฟ้องขับไล่โจทก์ต่อศาลจังหวัดระยอง ศาลได้พิพากษาขับไล่โจทก์และให้โจทก์ใช้ค่าเสียหายแก่จำเลย ซึ่งโจทก์ใช้ค่าเสียหายแก่จำเลยครบถ้วนแล้ว เมื่อสัญญาเช่านี้เลิกกันแล้ว โจทก์จำเลยต้องกลับคืนสู่ฐานะเดิมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๓๙๑ จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องคืนเงินค่าเช่าล่วงหน้าในส่วนที่โจทก์ไม่ได้ใช้ทรัพย์ที่เช่าซึ่งโจทก์ขอคิดเพียง ๗ ปี เป็นเงิน ๕๖,๐๐๐บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่จำเลยรับเงินไป คือวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๑๙ จนถึงวันฟ้องเป็นเงิน ๑๒,๖๐๐ บาท โจทก์ทวงถามแล้ว จำเลยไม่ชำระ ขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน ๖๘,๖๐๐ บาท และดอกเบี้ยในต้นเงินนี้นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะชำระเสร็จ
จำเลยให้การว่า ได้ทำสัญญาเช่าและรับเงินกินเปล่าจำนวน ๘๐,๐๐๐ บาทจริง เป็นการตอบแทนในการที่จำเลยให้โจทก์เช่าห้องโดยโจทก์เจตนาที่จะไม่ต้องการเงินกินเปล่าคืน ต่อมาโจทก์ผิดสัญญานำไปให้นายพินิจ ยศเทียม เช่าโดยมิได้รับอนุญาตจากจำเลย จำเลยได้เตือนโจทก์ให้ปฏิบัติตามสัญญาหลายครั้ง แต่โจทก์กับนายพินิจกลับแสดงพฤติการณ์ที่ไม่เหมาะสมหลายประการ เพราะโจทก์ไม่ประสงค์จะเช่าห้องของจำเลยต่อไป ในที่สุดจำเลยได้ฟ้องขับไล่โจทก์กับนายพินิจที่ศาลจังหวัดระยองเป็นคดีหมายเลขดำที่ ๒๕๖/๒๕๒๑ หมายเลขแดงที่ ๓๒๑/๒๕๒๑ โจทก์ต่อสู้ว่าไม่ผิดสัญญาและเงินกินเปล่านั้นเป็นการตอบแทนยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดาและฟ้องแย้งให้จำเลยจดทะเบียนการเช่า ศาลพิพากษาว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา ให้ขับไล่โจทก์กับนายพินิจ และยกฟ้องแย้งของโจทก์ คดีถึงที่สุดแล้ว เมื่อโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา จำเลยย่อมไม่มีหน้าที่ชดใช้ค่าเสียหายหรือคืนเงินให้แก่โจทก์ โจทก์ใช้สิทธิโดยไม่สุจริตและไม่มีมูลที่จะให้จำเลยรับผิด ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยคืนเงิน ๕๖,๐๐๐ บาทแก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๒๑ เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อวินิจฉัยคงมีว่า จำเลยจะต้องคืนเงินนี้ตามส่วนที่โจทก์ไม่ได้เช่าห้องหรือไม่ เห็นว่าคำพิพากษาในคดีของศาลจังหวัดระยองหมายเลขแดงที่ ๓๒๑/๒๕๒๑ นั้น มีผลผูกพันโจทก์จำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๔๕ โจทก์จะปฏิเสธว่าโจทก์ไม่ผิดสัญญาไม่ได้ สำหรับเงินแป๊ะเจี๊ยะนั้นคือเงินกินเปล่า แม้จะฟังว่าเป็นส่วนหนึ่งของค่าเช่า แต่ก็ยังต้องถือว่าเป็นเงินที่โจทก์ให้แก่จำเลยเปล่า ๆ ไม่มีเจตนาจะเอาคืนเพื่อที่โจทก์จะได้เช่าห้องในระยะยาว โดยอัตราค่าเช่าแต่ละเดือนถูกลงเมื่อโจทก์ต้องออกจากห้องพิพาทเพราะความผิดของโจทก์เอง โจทก์จึงไม่มีสิทธิที่จะได้รับเงินจำนวนนี้คืน ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share