คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4192/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลย ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้เช่าทรัพย์สินดังกล่าวได้รับมอบหมายจากเจ้าพนักงานบังคับคดีให้เป็นผู้รักษาทรัพย์ผู้ร้องทำบันทึกไว้ต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีว่าจะนำค่าเช่าส่งต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีและได้ชำระค่าเช่าจำนวนหนึ่งต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีแล้ว ค่าเช่าจำนวนดังกล่าวย่อมตกเป็นของจำเลยผู้ร้องไม่มีสิทธิขอรับคืน
แม้ผู้ร้องจะได้ทำบันทึกไว้ต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีว่า จะนำค่าเช่าที่ผู้ร้องเป็นผู้เช่าทรัพย์สินที่ถูกยึดมาชำระต่อเจ้าพนักงานบังคับคดี บันทึกดังกล่าวเป็นเพียงข้อตกลงของผู้ร้องซึ่งเป็นบุคคลภายนอกต่อมาผู้ร้องไม่ชำระค่าเช่าย่อมเป็นหน้าที่ของโจทก์หรือเจ้าพนักงานบังคับคดีที่จะดำเนินการบังคับเอากับผู้ร้องตามสัญญาเช่าเมื่อไม่ปรากฏว่าได้มีการอายัดค่าเช่าดังกล่าว ศาลชั้นต้นจึงไม่มีอำนาจบังคับให้ผู้ร้องชำระค่าเช่าที่ค้างได้

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดีให้เจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์จำเลยได้แก่สถานีบริการน้ำมัน สิ่งปลูกสร้างและผลประโยชน์เกี่ยวกับการเช่าสถานีบริการน้ำมัน ซึ่งเจ้าพนักงานบังคับคดีมอบให้นายชาญไชย ไตรเดชเป็นผู้รักษาทรัพย์และนายชาญไชยตกลงนำค่าเช่าสถานีบริการน้ำมันดังกล่าวเป็นเงินเดือนละ20,000 บาท ส่งต่อเจ้าพนักงานบังคับคดี ต่อมานายชาญไชยยื่นคำร้องว่า ตามที่ผู้ร้องเป็นผู้รักษาทรัพย์และได้ชำระค่าเช่าต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีเดือนละ 20,000 บาทนั้นบริษัทเซลล์แห่งประเทศไทย จำกัด แจ้งแก่ผู้ร้องว่าได้เป็นผู้เช่าที่ดินและสถานีบริการน้ำมันไว้จากผู้ถือกรรมสิทธิ์เดิมและยังอยู่ในระหว่างอายุสัญญา ผู้ร้องซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัทเชลล์แห่งประเทศไทย จึงมีสิทธิครอบครองทรัพย์สินดังกล่าวได้ตลอดไปจนกว่าจะครบกำหนดสัญญา ขอให้ผู้ร้องเป็นผู้รักษาทรัพย์เช่นเดิมและให้สั่งให้ผู้ร้องงดไม่ต้องชำระค่าเช่าต่อไป และขอรับเงินค่าเช่าที่ชำระไว้จำนวน 60,000 บาทคืนด้วย

ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องและให้ผู้ร้องนำค่าเช่าที่ค้างมาชำระใน 10 วัน

ผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้คืนค่าเช่าจำนวน 58,800 บาทแก่ผู้ร้องให้ผู้ร้องชำระค่าเช่าเดือนละ 400 บาท ต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีหรือศาลชั้นต้นนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์และจำเลยทั้งสองฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาต้องวินิจฉัยมีว่า ผู้ร้องมีสิทธิขอรับเงินที่วางศาลคืนได้หรือไม่ และจะบังคับให้ผู้ร้องชำระค่าเช่าที่ค้างได้หรือไม่ เห็นว่า ในการบังคดีนั้น โจทก์มีสิทธิที่จะบังคับเอากับทรัพย์สินของจำเลย รวมทั้งสิทธิเรียกร้องที่จำเลยมีสิทธิจะได้รับ เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าผู้ร้องเป็นผู้เช่าสถานีบริการน้ำมันดังกล่าวและได้นำค่าเช่ามาวางศาลรวม 3 เดือนเป็นเงิน 60,000 บาทแล้วเงินดังกล่าวย่อมตกเป็นของจำเลย ผู้ร้องไม่มีสิทธิขอรับคืน ส่วนที่ผู้ร้องได้ทำบันทึกไว้ต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีว่าจะนำเงินค่าเช่าเดือนละ 20,000 บาท มาส่งต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีนั้น บันทึกดังกล่าวเป็นเพียงข้อตกลงของผู้ร้องซึ่งเป็นบุคคลภายนอกยินยอมชำระค่าเช่าสถานีบริการน้ำมันดังกล่าวต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีเท่านั้น เมื่อผู้ร้องไม่ชำระย่อมเป็นหน้าที่ของโจทก์หรือเจ้าพนักงานบังคับคดีที่จะดำเนินการบังคับเอากับผู้ร้องตามสัญญาเช่า เมื่อโจทก์มิได้มีคำขอและศาลบได้ออกหมายอายัดค่าเช่าดังกล่าวศาลชั้นต้นจึงไม่มีอำนาจบังคับให้ผู้ร้องชำระค่าเช่าที่ค้างได้

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำร้องของผู้ร้องส่วนที่เกี่ยวกับค่าเช่าที่ผู้ร้องได้ชำระแล้ว

Share