คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 412/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กรณีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 7,72 ให้ปรับจำเลย 100 บาท ของกลางทั้งหมดให้ริบโจทก์อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 4,7(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2501มาตรา 3,5,8 และกฎกระทรวงมหาดไทย (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2501 ให้ลงโทษจำคุกจำเลยมีกำหนด 1 ปี นอกจากที่แก้นี้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น
ดังนี้ แม้จะเป็นการแก้ไขมากก็ดี แต่โทษจำคุกยังไม่เกิน 1 ปีเช่นนี้จำเลยก็ไม่มีสิทธิที่จะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจมีอาวุธปืนและกระสุนปืนโดยมิได้รับอนุญาตให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 4, 7, 8, 55, 72, 78 (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2501 มาตรา 3, 5, 8 กฎกระทรวงมหาดไทย (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2501 และริบของกลาง

จำเลยปฏิเสธว่ามิได้กระทำความผิด

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วฟังว่า จำเลยได้มีกระสุนปืนขนาด 9 มม. 4 นัดไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย แต่ปืนคาร์บิน 1 กระบอกซองกระสุน 2 อัน กระสุนปืน 17 นัด และลูกระเบิดมือ 2 ลูก ซึ่งพบใต้ถุนเรือนของจำเลยนั้น ทางพิจารณาฟังไม่ได้ว่าเป็นของจำเลยมีไว้ในครอบครอง เพราะอาจเป็นของผู้อื่นนำมาซุกใส่ไว้ใต้ถุนเรือนจำเลยซึ่งปรากฏว่าบ้านจำเลยไม่มีรั้วรอบขอบชิด รูปคดีเป็นที่สงสัยควรยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้เป็นผลดีแก่จำเลย จึงพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72 ให้ปรับจำเลย 100 บาท ซึ่งต้องขังมาพอแก่โทษแล้ว ของกลางทั้งหมดให้ริบข้อหาอื่นให้ยก แต่ในชั้นนี้ให้ขังจำเลยไว้ในระหว่างอุทธรณ์เว้นแต่จำเลยจะมีประกันเป็นที่พอใจของศาล

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 4, 7 พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2501 มาตรา 3, 5, 8 และกฎกระทรวงมหาดไทย (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2501 ให้ลงโทษจำคุกจำเลยมีกำหนด 1 ปี นอกจากที่แก้นี้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงและพิพากษาว่ากระสุนขนาด 9 มม. 4 นัด ไม่ใช่กระสุนปืนสำหรับใช้เฉพาะในราชการสงครามแต่ศาลอุทธรณ์ฟังว่ากระสุนขนาด 9 มม. 4 นัดนี้เป็นกระสุนปืนสำหรับใช้ในราชการสงคราม ทั้งฟังว่าของกลางอื่น ๆ นอกจากที่กล่าวนี้เป็นของสำหรับใช้เฉพาะในราชการสงคราม ซึ่งจำเลยมีไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายด้วย และพิพากษาแก้โทษปรับเป็นโทษจำคุกจำเลย ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้เป็นกรณีที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้มีอาวุธปืน กระสุนปืน และลูกระเบิดมือ ของกลางไว้ในครอบครองของจำเลยในวาระเดียวกัน ไม่ใช่ต่างกรรมต่างวาระ เมื่อศาลอุทธรณ์วางบทกำหนดโทษจำคุกจำเลย แม้จะเป็นการแก้ไขมากก็ดี แต่โทษจำคุกยังไม่เกิน 1 ปี เช่นนี้ จำเลยก็ไม่มีสิทธิที่จะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ ฎีกาจำเลยจึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 พิพากษาให้ยกฎีกาของจำเลย

Share