คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1015/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 299 นั้น บัญญัติเอาผิดแก่ผู้ที่เข้าร่วมในการชุลมุนต่อสู้กันระหว่างบุคคลตั้งแต่สามคนขึ้นไป ทำให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งได้รับอันตรายถึงสาหัส เว้นแต่การเข้าไปห้ามหรือเพื่อป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย โดยไม่ปรากฏว่าผู้ใดเป็นตัวการทำให้เกิดอันตรายดังกล่าวนั้น ถ้าปรากฏว่าผู้ใดเป็นตัวการกระทำโดยลงมือกระทำเองก็ดี หรือใช้ให้เขากระทำก็ดี ผู้กระทำย่อมมีความผิดตามกรรมของตนอีกโสดหนึ่ง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยร่วมกันมีอาวุธปืนพกลูกซองหนึ่งกระบอกกับกระสุนปืนหนึ่งนัดไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและได้บังอาจใช้ปืนนั้นกับมีดพกปลายแหลมยิงและแทงนายบุญ เปลือยหนองแค โดยเจตนาจะฆ่าให้ตาย แต่กระสุนปืนและมีดที่จำเลยใช้ทำร้ายถูกอวัยวะส่วนไม่สำคัญ นายบุญจึงไม่ถึงแก่ความตายขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วฟังว่า จำเลยสมคบกันใช้ปืนลูกซองสั้นยิงถูกผู้เสียหายถูกหน้าอกและแขนผู้เสียหายไหม้เกรียม เพราะดินส่งกระสุนไม่แรงพอที่จะทำให้ตายได้การกระทำของจำเลยไม่บรรลุผลเพราะเหตุปัจจัยซึ่งใช้ในการกระทำ ไม่ใช่เพราะไม่ถูกอวัยวะสำคัญดังฟ้อง เป็นผิดฐานพยายามฆ่าคน และฟังว่าเป็นปืนของจำเลยที่ 2 พิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 81 และจำเลยที่ 2 มีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 7, 72 อีกกระทงหนึ่ง ให้ลงโทษจำเลยที่ 2 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 81 ซึ่งเป็นกระทงหนักโดยให้จำคุกจำเลยทั้งสองคนละ 7 ปี 6 เดือน ริบปืนและมีดของกลาง

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยทั้งสองฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ตามที่จำเลยอ้างว่าการที่จำเลยกับผู้เสียหายและพยานโจทก์ชกต่อยต่อสู้กันนั้น เป็นการสมัครใจวิวาทกัน หากจำเลยจะมีความผิดก็ควรจะผิดเพียงมาตรา 299 นั้น พิเคราะห์แล้วเห็นว่าตามมาตรา 299 นั้น บัญญัติเอาผิดแก่ผู้ที่เข้าร่วมในการชุลมุนต่อสู้กันระหว่างบุคคลแต่สามคนขึ้นไป ทำให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งได้รับอันตรายถึงสาหัส เว้นแต่การเข้าไปห้ามหรือเพื่อป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายดยไม่ปรากฏว่าผู้ใดเป็นตัวการทำให้เกิดอันตรายดังกล่าวนั้นเท่านั้นถ้าปรากฏว่าผู้ใดเป็นตัวการกระทำโดยลงมือกระทำเองก็ดี หรือใช้ให้เขากระทำดังเช่นในคดีนี้ก็ดี ผู้กระทำย่อมมีความผิดตามกรรมของตนอีกโสดหนึ่ง จึงเห็นว่า จำเลยจะอ้างบทบัญญัติในมาตรานี้ให้พ้นความผิดฐานพยายามฆ่าคนไม่ได้

พิพากษายืน

Share