แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเป็นปลัดอำเภอมีผู้มาขอขึ้นทะเบียนทหารต่อจำเลยโดยพ้นกำหนดเวลาขึ้นทะเบียนแล้วจำเลยได้บังอาจจดข้อความเท็จว่าได้ขึ้นทะเบียนภายในกำหนด ดังนี้ต้องมีผิดตาม ม.230
ย่อยาว
ได้ความว่าจำเลยเป็นกรรมการอำเภอรับราชการเป็นปลัดอำเภอกะปงได้รับจดทะเบียนทหารให้ ข.ซึ่งมาขอขึ้นทะเบียนทหารต่อจำเลยโดยจำเลยเอาข้อความซึ่งรู้อยู่ว่าเป็นความเท็จ จดลงในทะเบียนว่า ข.มาขึ้นทะเบียนทหารเมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม พ.ศ.๒๔๗๗ ซึ่งความจริง ข.มาขอขึ้นทะเบียนทหารต่อจำเลยเมื่อวันที่ ๑ เมษายน พ.ศ.๒๔๗๘ ซึ่งเป็นเวลาพ้นกำหนดจดทะเบียนทหารแล้ว อันเป็นการช่วยให้ ข.พ้นจากความผิดฐานหลีกเลี่ยงไม่ขึ้นทะเบียนทหาร โจทก์จึงฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ม.๒๓๐
ศาลชั้นต้นเห็นว่าตาม ม.๑๕ แห่งพ.ร.บ.เกณฑ์ทหาร าพ.ศ.๒๔๗๕ การรับจดบัญชีทะเบียนทหารอยู่ในหน้าที่นายอำเภอเป็นผู้ทำตามตำแหน่งโดยฉะเพาะ หาใช่หน้าที่ของจำเลยผู้เป็นปลัดอำเภอไม่ จำเลยไม่ควรมีผิดตาม ม.๒๓๐
ศาลฎีกาเห็นว่าตาม ม.๖๖ แห่งพ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ. ๒๔๕๗ บัญญัติให้ปลัดอำเภอมีหน้าที่เป็นผู้ช่วยแลผู้แทนนายอำเภอแลตาม ม.๖๗ บัญญัติให้นายอำเภอ ปลัดอำเภอสมุหบัญชีรวมเรียกกันว่ากรมการอำเภอ แม้มีตำแหน่งต่างกันก็ย่อมมีหน้าที่แลความรับผิดชอบร่วมกัน เห็นว่าในเรื่องนี้จำเลยรับจดบัญชีเท็จให้เป็นหลักฐานในทางราชการเช่นนี้ ย่อมมีผิดตาม ม.๒๓๐ เพราะจำเลยใช้หน้าที่ในตำแหน่งอันตนมีอยู่แลทำแทนนายอำเภอแลยังปรากฎด้วยว่าตามทางปฏิบัติก็เป็นหน้าที่ของปลัดขวาเป็นผู้รับจดทะเบียน พิพากษา