คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4091/2543

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

นัดสืบพยานโจทก์นัดแรกทนายโจทก์และทนายจำเลยขอเลื่อนคดีโดยทนายโจทก์อ้างว่ายังหาต้นฉบับเอกสารเป็นบิลเงินสดซึ่งจะต้องนำมาประกอบการถามพยานไม่พบ ส่วนทนายจำเลยอ้างว่าติดว่าความที่ศาลอื่นศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนคดีไปนัดสืบพยานโจทก์ และกำชับทนายโจทก์ให้เตรียมพยานมาให้พร้อมสืบครั้นถึงวันนัดทนายโจทก์มอบฉันทะให้เสมียนทนายมาขอเลื่อนคดีอ้างว่า ต้นฉบับหนังสือมอบอำนาจของโจทก์ ทนายของโจทก์อีกคนหนึ่งนำไปขึ้นศาลต่างจังหวัดและอาจกลับมาไม่ทันทนายจำเลยแถลงว่าการขอเลื่อนคดีของทนายโจทก์ไม่มีเหตุอันควร เมื่อศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีครั้งแรกแล้ว โจทก์จะขอเลื่อนคดีครั้งต่อไปอีกไม่ได้ เว้นแต่มีเหตุจำเป็นอันมิอาจก้าวล่วงเสียได้ และต้องแสดงให้เป็นที่พอใจของศาลด้วยว่า ถ้าศาลไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีต่อไปอีกจะทำให้เสียความยุติธรรม แต่สำหรับข้ออ้างในการขอเลื่อนคดีของโจทก์ครั้งที่ 2 เมื่อจำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้ในประเด็นเกี่ยวกับการมอบอำนาจให้ฟ้องคดี และทนายโจทก์ก็ไม่ได้มาศาลเพื่อแถลงประกอบให้ศาลเห็นว่าเหตุที่อ้างนั้น เป็นเหตุจำเป็นอันมิอาจก้าวล่วงเสียได้ แล้วไม่ได้แสดงให้เป็นที่พอใจศาลว่า ถ้าศาลไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีต่อไปอีกจะทำให้เสียความยุติธรรมอย่างไร จึงไม่มีเหตุที่ศาลจะอนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีต่อไปได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องในฐานะผู้รับช่วงสิทธิจากผู้เอาประกันภัย ขอให้บังคับจำเลยผู้ทำละเมิดชำระค่าเสียหายเป็นเงิน 91,030.25 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 87,740 บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะชำระเงินแก่โจทก์เสร็จสิ้น

จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง เพราะผู้เอาประกันภัยไม่มีส่วนได้เสียในทรัพย์ที่ประกัน เหตุละเมิดไม่ได้เกิดจากความประมาทของจำเลยค่าเสียหายที่โจทก์เรียกร้องสูงเกินความจริง ขอให้ยกฟ้อง

ในระหว่างพิจารณาสืบพยานโจทก์ โจทก์ซึ่งมีหน้าที่นำสืบก่อนได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีและถือว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบ

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพยานโจทก์ต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้ข้อเท็จจริงฟังได้จากรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นลงวันที่ 25 พฤษภาคม 2541 อันเป็นวันนัดสืบพยานโจทก์นัดแรกว่าทนายโจทก์และทนายจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี โดยทนายโจทก์อ้างว่ายังหาต้นฉบับเอกสารเป็นบิลเงินสดซึ่งจะต้องนำมาประกอบการถามพยานไม่พบส่วนทนายจำเลยอ้างว่าติดว่าความที่ศาลอื่น ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนคดีไปนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 5 สิงหาคม 2541 เวลา 9 นาฬิกา และกำชับทนายโจทก์ให้เตรียมพยานมาให้พร้อมสืบในนัดหน้า ครั้นถึงวันนัดปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ 5 สิงหาคม 2541 ว่า ทนายโจทก์มอบฉันทะให้เสมียนทนายมายื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอ้างว่า ต้นฉบับหนังสือมอบอำนาจของโจทก์เอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 2 ทนายความของโจทก์อีกคนหนึ่งนำไปขึ้นศาลต่างจังหวัดและอาจกลับมาไม่ทัน จึงไม่อาจนำพยานเข้าสืบในวันนี้ได้ทนายจำเลยแถลงว่าการขอเลื่อนคดีของทนายโจทก์ไม่มีเหตุอันสมควร ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อนคดี และถือว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบพิพากษายกฟ้อง ปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่าที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีและถือว่าโจทก์ไม่มีพยานมาเป็นการชอบด้วยกระบวนพิจารณาแล้วหรือไม่เห็นว่า เมื่อศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีครั้งแรกไปแล้วโจทก์จะมาขอเลื่อนคดีครั้งต่อไปอีกไม่ได้ เว้นแต่มีเหตุจำเป็นอันมิอาจก้าวล่วงเสียได้ และโจทก์จะต้องแสดงให้เป็นที่พอใจของศาลด้วยว่า ถ้าศาลไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีต่อไปอีกจะทำให้เสียความยุติธรรม ศาลจึงจะสั่งให้เลื่อนคดีไปได้ตามบทบัญญัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 40 วรรคหนึ่งแต่ในการขอเลื่อนคดีของโจทก์ครั้งที่ 2 นี้ อ้างว่าต้นฉบับหนังสือมอบอำนาจของโจทก์เอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 2 ทนายความของโจทก์อีกคนหนึ่งนำไปขึ้นศาลต่างจังหวัดและไม่อาจกลับมาทัน จึงไม่อาจนำพยานเข้าสืบในวันนี้ได้ทั้งที่จำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้ในประเด็นเกี่ยวกับการมอบอำนาจให้ฟ้องคดีตามหนังสือมอบอำนาจท้ายฟ้องหมายเลข 2 ของโจทก์และทนายโจทก์ก็ไม่ได้มาศาลเพื่อแถลงประกอบให้ศาลเห็นว่าเหตุที่อ้างนั้นเป็นเหตุจำเป็นอันมิอาจก้าวล่วงเสียได้นอกจากนี้แล้วโจทก์ไม่ได้แสดงให้เป็นที่พอใจศาลว่า ถ้าศาลไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีต่อไปอีกจะทำให้เสียความยุติธรรมอย่างไร เมื่อพิจารณาถึงข้อที่โจทก์ไม่อ้างเหตุขอเลื่อนคดีให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดดังกล่าวประกอบกับว่าศาลชั้นต้นได้กำชับทนายโจทก์ในนัดที่ขอเลื่อนคดีครั้งแรกแล้วว่า ให้เตรียมพยานมาให้พร้อมสืบในนัดหน้า แต่ทนายโจทก์กลับไม่มาศาลและไม่มีการเตรียมพยานอื่นมาสืบตามที่ศาลชั้นต้นกำชับไว้จึงไม่มีเหตุที่ศาลจะอนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีต่อไปได้ คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่ให้เลื่อนคดีและงดสืบพยานโจทก์ชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังขึ้น”

พิพากษากลับ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น

Share