แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีฉ้อโกงโจทก์ได้บรรยายฟ้องถึงการกระทำของจำเลยในการหลอกลวงบริษัทผู้เสียหายและได้รับสินค้าจากผู้เสียหายไปในแต่ละวันหรือแต่ละครั้งรวม 48 ครั้งไว้ชัดแจ้ง จำเลยให้การรับสารภาพ การกระทำของจำเลยแต่ละครั้งจึงเป็นความผิดสำเร็จ เมื่อผู้เสียหายส่งมอบสินค้าให้แก่จำเลยโดยหลงเชื่อคำหลอกลวงของจำเลยแต่ละครั้งไป จึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑, ๓๔๑ ให้จำเลยคืนของกลางแก่ผู้เสียหายและให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนเป็นเงิน ๔๔๒,๙๖๑ บาทแก่ผู้เสียหาย
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๙๑, ๓๔๑ ให้เรียงกระทงลงโทษจำคุกกระทงละ ๒ เดือน รวม ๔๘ กระทงจำคุก ๙๖ เดือน ลดโทษกึ่งหนึ่งตามมาตรา ๗๘ คงจำคุก ๔๘ เดือน ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืน ๔๔๒,๙๖๑ บาท แก่ผู้เสียหาย
จำเลยอุทธรณ์ ขอให้รอลงอาญา
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปรากฏตามฟ้องของโจทก์ได้บรรยายถึงการกระทำของจำเลยในการหลอกลวงบริษัทไมล์ฟอร์ดเทรดดิ้ง จำกัด ผู้เสียหาย และให้รับสินค้าจากผู้เสียหายไปในแต่ละวันหรือแต่ละครั้งรวม ๔๘ ครั้ง ไว้ชัดแจ้งแล้วจำเลยก็ให้การรับสารภาพดังนั้นการกระทำของจำเลยแต่ละครั้งจึงเป็นความผิดสำเร็จเมื่อผู้เสียหายส่งมอบสินค้าให้แก่จำเลยโดยหลงเชื่อคำหลอกลวงของจำเลยแต่ละครั้งไป การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
พิพากษายืน
