คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 404/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนสำหรับใช้เฉพาะในการสงครามตามกฎกระทรวงไว้โดยมิได้รับอนุญาตจำเลยรับสารภาพศาลสอบโจทก์ โจทก์แถลงว่าทางราชการเคยอนุญาตให้ผู้ที่ครอบครองปืนชนิดนี้จดทะเบียนให้มีและใช้ได้ ยังมีราษฎรที่ได้รับอนุญาตมีและใช้ปืนนี้ได้
เมื่อจำเลยรับสารภาพตามฟ้องย่อมหมายความว่า รับว่ามีปืนสำหรับใช้เฉพาะในการสงครามจะอ้างคำแถลงของโจทก์มาลบล้างกฎกระทรวงฯไม่ได้ คงมีผลเพียงเพื่อให้ศาลใช้ดุลพินิจในการลงโทษเท่านั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนเล็กสั้นแบบ 83 ขนาด 6.5 ม.ม.ซึ่งเป็นอาวุธปืนสำหรับใช้เฉพาะในการสงครามตามกฎกระทรวง (ฉบับที่ 7)พ.ศ. 2501 ข้อ (3) ค. หนึ่งกระบอกไว้ในครอบครอง โดยมิได้รับอนุญาตขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 55, 78(ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2501 มาตรา 5, 8

จำเลยรับสารภาพตามฟ้อง

ศาลสอบโจทก์ ๆ แถลงว่า อาวุธปืนชนิดนี้ทางราชการเคยอนุญาตให้ผู้ที่ครอบครองจดทะเบียนให้มีและใช้ได้ เวลานี้ราษฎรที่ได้รับอนุญาตนั้นก็ยังมีและใช้ได้อยู่

ศาลชั้นต้นเห็นว่า อาวุธปืนตามฟ้องมิใช่อาวุธปืนที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงครามอันแท้จริงตามที่กฎหมายประสงค์จะลงโทษ จำเลยจึงมีความผิดฐานมีอาวุธปืนธรรมดา พิพากษาลงโทษฐานนี้

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ได้ความตามฟ้องและคำให้การว่า ปืนที่จำเลยมีไว้เป็นอาวุธสำหรับใช้เฉพาะการสงครามตามกฎกระทรวงฯ (ฉบับที่อ้างในฟ้อง) พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ห้ามมิให้บุคคลมีอาวุธปืนดังกล่าว เมื่อจำเลยมีไว้ก็มีความผิดตามฟ้อง ตามเจตนารมย์ของมาตรา 55 แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ถือว่าอาวุธปืนสงครามร้ายแรงไม่ประสงค์ให้ประชาชนมีไว้ได้ โดยพิเคราะห์ว่าเป็นอาวุธปืนสงครามที่กฎกระทรวงฯ บัญญัติไว้หรือไม่เท่านั้น เมื่อเป็นแล้วแม้ทางราชการเคยอนุญาตให้ประชาชนจดทะเบียนได้ ก็ไม่มีผลลบล้างกฎหมายดังกล่าวแต่มีผลเพียงที่ศาลจะใช้ดุลพินิจในการลงโทษให้เหมาะสมเท่านั้นจำเลยจึงมีความผิดตามฟ้อง

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้จำเลยรับสารภาพตามฟ้อง ย่อมหมายความว่ารับว่าอาวุธปืนที่จำเลยมีไว้นี้เป็นอาวุธสำหรับใช้เฉพาะในการสงคราม แม้โจทก์จะได้แถลงดังกล่าวนั้นก็ไม่เป็นเหตุที่จะอ้างขึ้นลบล้างกฎกระทรวงฯ ได้ คงมีผลเพียงเพื่อใช้ดุลพินิจในการลงโทษให้เหมาะสมเท่านั้น ดังที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยไว้

พิพากษายืน

Share