คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4039/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเป็นตัวแทนในประเทศไทยของบริษัท น. ผู้ขนส่งสินค้ารายพิพาทจากประเทศโรมาเนีย เมื่อเรือบรรทุกสินค้ามาถึงท่าเรือแห่งประเทศไทย ทางเรือได้แจ้งรายการสินค้าเสียหายให้บริษัท จ. ผู้ซื้อสินค้าทราบไม่ได้แจ้งจำเลยด้วย และบริษัท จ. เป็นผู้ว่าจ้างผู้อื่นไปขนถ่ายสินค้าจากเรือดังกล่าวเอง จำเลยมีหน้าที่เพียงแจ้งการมาถึงของเรือสินค้าให้บริษัท จ. ทราบเท่านั้น จำเลยไม่เป็นผู้ร่วมขนส่งสินค้ารายพิพาท โจทก์ผู้รับประกันภัยสินค้ากับบริษัท จ. จึงไม่อาจฟ้องให้จำเลยรับผิดได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า บริษัทเจียไต๋ส่งเสริมเกษตรกรรม จำกัด ได้สั่งซื้อปุ๋ยจากผู้ขายในประเทศโรมาเนียมาขายในประเทศไทย และได้เอาประกันภัยไว้กับโจทก์ผู้ขายได้ว่าจ้างบริษัทนาฟโรมโรมาเนียชิปปิ้ง จำกัด เป็นผู้ทำการขนส่งสินค้าทางเรือเดินทะเลชื่อกรูเอีย บริษัทดังกล่าวไม่มีสำนักงานสาขาในประเทศไทย จึงได้ว่าจ้างบริษัทจำเลยให้ร่วมขนส่งสินค้าจากเรือเดินสมุทรเพื่อส่งมอบให้บริษัทเจียไต๋ฯ จำเลยตกลงรับเข้าเป็นผู้ขนส่งทอดสุดท้ายโดยได้รับบำเหน็จตอบแทนทางการค้า เมื่อเรือกรูเอียมาถึงท่าเรือแห่งประเทศไทย จำเลยได้จัดการขนถ่ายสินค้าเพื่อส่งมอบแก่บริษัทเจียไต๋ฯ ปรากฏว่าปุ๋ยที่ส่งมาเสียหายเป็นเงิน ๓๘๙,๔๐๕.๙๙ บาท โจทก์ใช้ค่าเสียหายให้บริษัทเจียไต๋ฯแล้วจึงรับช่วงสิทธิมาฟ้องจำเลย ขอให้จำเลยชำระเงินจำนวนดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า จำเลยมีวัตถุประสงค์ทำการเป็นตัวแทน นายหน้า ตัวแทนค้าต่าง ผู้แทน ติดต่อและทำงานด้านเลขานุการให้แก่บริษัทเดินเรือ จำเลยไม่เคยประกอบกิจการรับขนส่งสินค้าทั้งในและนอกประเทศไทย จำเลยไม่ได้ร่วมขนส่งกับบริษัทนาฟโรมโรมาเนีย จำกัด และไม่มีนิติสัมพันธ์กับบริษัทเจียไต๋ฯ บริษัทเจียไต๋ฯเป็นผู้นำเรือไปรับปุ๋ยรายพิพาทจากเรือกรูเอียเอง เครื่องมืออุปกรณ์ตลอดจนคนงานในการขนถ่ายสินค้าล้วนเป็นของผู้ขนส่งคือเรือกรูเอีย และผู้ซื้อทั้งสิ้น จำเลยไม่ได้เข้าเกี่ยวข้องด้วย จำเลยทำหน้าที่ให้บริการแก่เรือในลักษณะเป็นตัวแทน โดยทำการเกี่ยวกับเรื่องเอกสารตามที่บริษัทเรือมอบหมายและติดต่อให้ผู้ซื้อไปรับของจากเรือตามวันเวลาที่กำหนด และให้ผู้ซื้อมารับเอกสารในการออกของไปจากจำเลยเท่านั้น โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องจำเลย
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยชำระเงิน ๓๘๙,๔๐๕.๙๙ บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า บันทึกรายการสินค้าเสียหาย ทางเรือกรูเอียแจ้งให้บริษัทผู้ซื้อสินค้าทราบ ไม่ได้แจ้งให้จำเลยทราบ ซึ่งถ้าหากจำเลยเป็นผู้ร่วมทำการขนส่ง สินค้าเสียหายก็ควรจะได้รับแจ้งเหตุดังกล่าวด้วย ส่วนพยานบุคคลของโจทก์กล่าวคือ นายสุขุมพนักงานของโจทก์เบิกความสอบทนายจำเลยถามค้านว่า พยานไปที่ท่าเรือเอง ทางบริษัทผู้ซื้อได้นำเรือฉลอมมารับขนถ่ายสินค้าทางกราบเรือใหญ่ การขนถ่ายสินค้าจะเป็นการร่วมกันขนถ่ายระหว่างบริษัทเรือใหญ่ บริษัทเรือฉลอมและบริษัทสตูวิดอร์เท่านั้น และนายอัมพรผู้ควบคุมดูแลการขนถ่ายสินค้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด ที.เอส.เซอร์วิส หรือ ทวีทรัพย์ ส.บริการ ก็เบิกความตอบทนายจำเลยถามค้านว่า บริษัทผู้ซื้อได้ว่าจ้างห้างหุ้นส่วนจำกัด ที.เอส.เซอร์วิส จำกัด ให้ขนถ่ายสินค้าจากเรือใหญ่ลงเรือฉลอม บริษัทจำเลยมีหน้าที่แจ้งการมาถึงของเรือกรูเอียในฐานะตัวแทนเรือ มิใช่ฐานะผู้ขนส่ง นอกจากนี้ นายธีระศักดิ์ ผู้จัดการฝ่ายเรียกร้องค่าเสียหายของบริษัทผู้ซื้อและนายเกรียงศักดิ์ ผู้จัดการคลังสินค้าก็เบิกความว่า บริษัทผู้ซื้อไม่เคยว่าจ้างบริษัทจำเลยทำการขนส่งสินค้า รวมทั้งบันทึกรายการสินค้าเสียหายซึ่งนายเรือกรูเอียทำขึ้น ก็ไม่ได้ระบุว่ากรรมกรของบริษัทจำเลยทำให้เกิดความเสียหาย ดังนั้น พยานหลักฐานของโจทก์ไม่มีน้ำหนักให้ฟังได้ว่า จำเลยเป็นผู้ร่วมรับขนส่งสินค้าพิพาท พยานหลักฐานของจำเลยมีน้ำหนักฟังได้ว่าจำเลยเป็นเพียงตัวแทนของบริษัทนาฟโรมโรมาเนียชิปปิ้ง จำกัด เท่านั้น จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ตามฟ้อง
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ ให้โจทก์ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลแทนจำเลย โดยกำหนดค่าทนายความรวม ๑๒,๐๐๐ บาท

Share