คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2306/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์รับจ้างขนส่งไม้อัดให้แก่บริษัท ม. เมื่อมีผู้กระทำละเมิดทำให้เกิดความเสียหายแก่ไม้อัดที่โจทก์เป็นผู้รับขนส่งดังกล่าว และโจทก์ได้ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บริษัท ม. ตามสัญญาแล้ว โจทก์ย่อมเป็นผู้รับช่วงสิทธิจากบริษัท ม. มีอำนาจฟ้องผู้กระทำละเมิดและนายจ้างของผู้กระทำละเมิดให้ชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดจากการกระทำละเมิดนั้นได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์รับจ้างบริษัทไม้อัดไทย จำกัด ขนส่งไม้อัดจากคลังสินค้าของโรงงานไม้อัดไทยบางนา ไปส่งขึ้นเรือสินค้าต่างประเทศที่ท่าเรือของจำเลยที่ ๓ หรือบริเวณลำแม่น้ำเจ้าพระยาต่อมาโจทก์ได้จ้างจำเลยที่ ๑ ขนส่งไม้อัดจากโรงงานไม้อัดของบริษัทไม้อัดไทย จำกัด ดังกล่าว ไปทำพิธีการศุลกากร จำเลยที่ ๑ ได้นำเรือฉลอมพร้อมด้วยเรือลากจูง มีจำเลยที่ ๒ เป็นผู้ควบคุมไปบรรทุกสินค้าดังกล่าวที่โรงงานไม้อัดของบริษัทไม้อัดไทย จำกัดเมื่อทำการบรรทุกสินค้าดังกล่าวลงเรือฉลอมแล้ว จำเลยที่ ๒ ได้ลากจูงเรือฉลอมไปยังกองตรวจสินค้าขาออกเพื่อปฏิบัติพิธีการศุลกากร เมื่อจำเลยที่ ๒ ลากจูงเรือฉลอมไปถึงตำบลกอบัว อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ จำเลยที่ ๔ ซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ ๓ และเป็นผู้ควบคุมเรือลากจูง (เรือทัก) ของจำเลยที่ ๓ ได้ขับเรือลากจูงดังกล่าวแล่นมาด้วยความเร็วสูงมาก และแล่นแซงเรือลากจูงของจำเลยที่ ๒ ไปด้วยความประมาท เป็นเหตุทำให้เกิดคลื่นใต้น้ำและคลื่นได้พัดน้ำสาดเข้าไปในเรือฉลอมดังกล่าวและด้วยความประมาทเลินเล่อของจำเลยที่ ๒ เช่นเดียวกันไม่ได้ใช้ความระมัดระวังอันเป็นปกติวิสัยของผู้ที่ประกอบอาชีพในการลากจูงเรือขณะเมื่อเรือฉลอมดังกล่าวได้เอียงตัวลง จำเลยที่ ๒ แทนที่จะหยุดเรือลากจูงเพื่อให้เรือฉลอมมีโอกาสตั้งลำขึ้นใหม่ จำเลยที่ ๒ กลับเร่งเครื่องเรือลากจูง ทำให้เรือฉลอมพลิกคว่ำลง สินค้าไม้อัดของผู้ว่าจ้างโจทก์เสียหาย จำเลยที่ ๒ และจำเลยที่ ๓ ซึ่งเป็นนายจ้างของจำเลยที่ ๔ จึงต้องร่วมรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ในฐานะผู้ใช้สิทธิไล่เบี้ยอันเกิดจากการที่โจทก์ต้องชำระค่าเสียหายแก่บริษัทไม้อัดไทย จำกัด ขอให้บังคับจำเลยทั้งสี่ชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์จำนวน ๘๒๕,๗๔๓.๙๘ บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ให้การว่า จำเลยที่ ๒ ไม่ได้เป็นเจ้าของเรือลากจูงและไม่ได้เป็นลูกจ้างจำเลยที่ ๑ จำเลยที่ ๑ รับงานจากโจทก์ในลักษณะรับจ้างขนส่งและได้ว่าจ้างจำเลยที่ ๒ ไปอีกต่อหนึ่งเหตุคดีนี้จำเลยที่ ๒ ไม่ได้กระทำโดยประมาท ความเสียหายน่าจะไม่ถึง ๗๘๓,๕๔๔.๖๐ บาท โจทก์ยังไม่ได้ชำระค่าเสียหายให้แก่บริษัทไม้อัดไทย จำกัด โจทก์จึงไม่อยู่ในฐานะจะใช้สิทธิไล่เบี้ยเอากับจำเลยที่ ๑ และเหตุที่เกิดขึ้นดังกล่าวเป็นเพราะความผิดและประมาทเลินเล่อของโจทก์เองที่ไม่ประกันภัยไว้
จำเลยที่ ๓ ที่ ๔ ให้การว่า จำเลยที่ ๔ ไม่มีหน้าที่ควบคุมเรือลากจูงแต่เป็นสรั่งเรือดังกล่าว วันเกิดเหตุเรือลากจูงได้ไปดันเรือต่างประเทศเข้าจอดเทียบท่าเรียบร้อยเมื่อเวลา ๑๗นาฬิกา จึงได้แล่นกลับไปจอดที่ท่าจอดเรือ ตลอดเวลาที่เรือดังกล่าวปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้น ไม่ปรากฏว่ามีเรือบรรทุกสินค้าล่มโจทก์หามีสิทธิไล่เบี้ยเอากับจำเลยที่ ๓ ที่ ๔ ไม่ โจทก์ไม่เคยทวงถามให้จำเลยที่ ๓ ที่ ๔ ชำระหนี้ และแม้โจทก์จะใช้ค่าเสียหายให้แก่บริษัทไม้อัดไทย จำกัด ไปแล้วก็หาทำให้โจทก์เป็นผู้รับช่วงสิทธิไม่ เพราะต้องเป็นผู้รับผิดต่อบริษัทไม้อัดไทย จำกัดอยู่แล้ว จำเลยที่ ๓ ที่ ๔ จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยที่ ๑ ที่ ๓และที่ ๔ ร่วมกันชำระเงิน ๗๗๓,๙๘๑.๑๘ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินตามใบเสร็จรับเงินที่โจทก์ชำระค่าเสียหาย นับแต่วันที่ลงในใบเสร็จรับเงินแต่ละฉบับ ตามเอกสารหมาย จ.๑๓ (๑๕ ฉบับ) จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ให้จำเลยที่ ๑ ที่ ๓ และที่ ๔ ร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความให้ ๑๐,๐๐๐ บาท ให้ยกฟ้องโจทก์ สำหรับจำเลยที่ ๒ให้ดจทก์ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนจำเลยที่ ๒ โดยกำหนดค่าทนายความให้ ๓,๐๐๐ บาท ส่วนที่โจทก์ขอเกินมาให้ยกเสีย
จำเลยที่ ๑ ที่ ๓ และที่ ๔ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ ๑ด้วย ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ ๑กับค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์สำหรับจำเลยที่ ๓ ที่ ๔ ให้เป็นพับนอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ ๓ ที่ ๔ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในปัญหาที่ว่า โจทก์เป็นผู้รับช่วงสิทธิหรือไม่ เห็นว่าโจทก์รับจ้างขนส่งไม้อัดไทยให้แก่บริษัทไม้อัดไทยจำกัด เมื่อเกิดความเสียหายแก่ไม้อัดที่โจทก์เป็นผู้รับขนส่งโจทก์ย่อมจะต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บริษัทไม้อัดไทยจำกัด ตามสัญญา เมื่อโจทก์ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บริษั่ไมัอัดไทยจำกัด แล้ว โจทก์จึงเป็นผู้รับช่วงสิทธิจากบริษัทไม้อัดไทย จำกัดโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยที่ ๔ ผู้กระทำละเมิด และจำเลยที่ ๓ซึ่งเป็นนายจ้างของจำเลยที่ ๔ ให้ชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดจากการละเมิดของจำเลยที่ ๔ ได้
พิพากษายืน ให้จำเลยที่ ๓ ที่ ๔ ใช้ค่าทนายความชั้นฎีกาแทนโจทก์ ๒,๐๐๐ บาท.

Share