แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยกระทำความผิดคดีนี้ในระหว่างที่ถูกคุมขังตามอำนาจของศาลเป็นกรณีที่โจทก์ไม่อาจฟ้องคดีนี้รวมกับคดีอื่น และไม่อาจรวมพิจารณาคดีนี้กับคดีอื่นเข้าด้วยกันได้ ต้องนับโทษของจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษในคดีอื่น ๆ ทุกคดี หากนับโทษคดีนี้รวมกับคดีอื่น ๆ ได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(3) ก็เท่ากับว่าผู้ต้องคำพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิตหรือจำคุก 50 ปี ถ้ากระทำความผิดอีกในระหว่างที่ต้องโทษอยู่ย่อมไม่ต้องรับโทษเลย ซึ่งมิใช่เจตนารมณ์ของกฎหมาย สำหรับคดีอื่น ๆ คดีใด จำเลยจะขอปรับโทษใหม่ได้หรือไม่จำเลยชอบที่จะไปร้องขอในคดีนั้น ๆ เอง จะร้องขอเข้ามาในคดีนี้หาได้ไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 190, 92ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 4และนับโทษจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษจำคุกในคดีอาญาหมายเลขแดงที่199/2524, 258/2524, 273/2524, 295/2524, 300/2524, 388/2524,464/2524, 466/2524, 556/2524, 589/2524, 916/2524, 117/2525,1172/2524, 1088/2524 ของศาลทหารกรุงเทพ (ศาลอาญา) คดีอาญาหมายเลขแดงที่ 3819/2527, 26214/2527, 26341/2527 ของศาลชั้นต้นและคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 9/2526 ของศาลมณฑลทหารบกที่ 7(ศาลจังหวัดเชียงใหม่) และคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 3261/25283261/2528 ของศาลชั้นต้น และเพิ่มโทษจำเลยตามกฎหมายด้วย
จำเลยให้การรับสารภาพและรับว่าเป็นจำเลยในคดีอื่น ๆจริงดังฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 190 วรรคแรก ให้จำคุก 2 ปี เพิ่มโทษหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92 จำคุก 2 ปี 8 เดือนจำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา นับเป็นเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 1 ปี 4 เดือน ให้นับโทษต่อจากโทษจำคุกในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 199/2524, 258/2524, 273/2524, 295/2524, 300/2524, 388/2524,465/2524, 466/2524, 589/2524, 916/2524, 1088/2524, 1172/2524,117/2525, 556/2526 ของศาลทหารกรุงเทพ (ศาลอาญา) คดีอาญาหมายเลขแดงที่ 9/2526 ของศาลมณฑลทหารบกที่ 7 (ศาลจังหวัดเชียงใหม่)คดีอาญาหมายเลขแดงที่ 26214/2527, 26341/2527, 3819/2527 และ3261/2528 ของศาลชั้นต้น
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยกระทำความผิดคดีนี้ในระหว่างที่ถูกคุมขังตามอำนาจของศาล จึงเป็นกรณีที่โจทก์ไม่อาจฟ้องคดีนี้รวมกับคดีอื่นและไม่อาจรวมพิจารณาคดีนี้กับคดีอื่นเข้าด้วยกันได้ต้องนับโทษของจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษในคดีอื่น ๆ ทุกคดี หากนับโทษคดีนี้รวมกับคดีอื่น ๆ ได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(3)ดังที่จำเลยฎีกาแล้ว ก็เท่ากับว่าผู้ที่ต้องคำพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิตหรือจำคุก 50 ปี ถ้ากระทำความผิดอีกในระหว่างที่ต้องโทษอยู่ย่อมไม่ต้องรับโทษเลย ซึ่งเห็นได้ว่ามิใช่เจตนารมณ์ของกฎหมายที่จะกำหนดหลักเกณฑ์เช่นนั้น สำหรับคดีอื่น ๆ คดีใดจำเลยจะขอปรับโทษใหม่ได้หรือไม่นั้น จำเลยชอบที่จะไปร้องขอในคดีนั้น ๆ เอง จะร้องขอเข้ามาในคดีนี้หาได้ไม่ ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน