แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องของโจทก์บอกแต่วันเดือนปีที่จำเลยกระทำผิด ส่วนเวลาบอกแต่เพียง “เวลกลาง” จะเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน โจทก์ไม่บอก ดังนี้ ถือว่าเป็นฟ้องไม่สมบูรณ์ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 1598(5)
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยเห็นว่าจำเลยไม่ได้กระทำผิด และฟ้องของโจทก์ก็ไม่สมบูรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายโจทก์ฎีกาว่าฟ้องของโจทก์สมบูรณ์และว่าจำเลยกระทำผิดดังนี้ แม้ศาลฎีกาจะเห็นว่าฎีกาข้อเท็จจริงต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 219 และฎีกาในข้อฟ้องสมบูรณ์อันเป็นฎีกาข้อกฎหมายนั้น แม้ศาลฎีกาจะพิพากษาให้โจทก์ชนะโดยฟังว่าฟ้องสมบูรณ์ก็ตาม แต่ผลของคำพิพากษาก็ยังคงต้องปล่อยจำเลยอยู่นั่นเอง ดังนี้ ศาลฎีกาก็มีสิทธิรับฎีกาของโจทก์ไว้วินิจฉัยให้ในข้อกฎหมายนั้น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๔๙ ฐานฆ่าบิดาโจทก์ตายโดยเจตนา จำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า ฟ้องของโจทก์ไม่สมบูรณ์ ส่วนข้อเท็จจริงก็เห็นว่า พยานหลักฐานของโจทก์ไม่มั่นคงพอที่จะให้เชื่อได้ว่าจำเลยกระทำผิด จึงพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามฟ้องของโจทก์บอกแต่วันเดือนปีที่จำเลยกระทำผิด ส่วนเวลาบอกแต่เพียง เวลากลาง จะเป็นกลางวันหรือกลางคืน โจทก์ไม่บอก จึงเป็นฟ้องไม่สมบูรณ์ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา ๑๕๘(๕)
ส่วนข้อเท็จจริง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นว่า ไม่พอฟังว่าจำเลยกระทำผิด จึงฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้
คงพิพากษายืนให้ข้อกฎหมาย