คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4012/2533

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การที่ผู้คัดค้านไม่เห็นพ้องด้วยกับการแต่งตั้งกรรมการใหม่8 คน ของมูลนิธินั้น มิได้แสดงว่าความเห็นของผู้คัดค้านจะถูกต้องเสมอไป การแต่งตั้งกรรมการในกรณีเช่นนี้ย่อมจะทำให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนพอใจได้ยาก การขัดแย้งกันในด้านความเห็นย่อมเกิดขึ้นได้เป็นธรรมดา การที่กรรมการใหม่ปฏิบัติศาสนกิจไม่ตรงกับผู้คัดค้านก็มิได้แสดงว่าผู้คัดค้านเป็นฝ่ายที่ปฏิบัติศาสนกิจถูกต้องกว่ากรรมการใหม่

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า มูลนิธิอัสสละฟียะฮ์มูลนิธิ ได้จัดตั้งขึ้นทะเบียนต่อทางราชการมีฐานะเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายมีวัตถุประสงค์เพื่อบำเพ็ญทาน การศึกษา การศาสนาอิสลาม และเพื่อสาธารณประโยชน์อื่น เริ่มแรกจัดตั้งมีกรรมการดำเนินการตามมาตรา 15 คน ต่อมากรรมการถึงแก่กรรมไป 8 คน ปัจจุบันจึงเหลือกรรมการ 7 คน ซึ่งตามตราสารจัดตั้งระบุไว้ว่าการประชุมแต่ละครั้งจะต้องมีกรรมการเข้าประชุมไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของคณะกรรมการจึงจะเป็นองค์ประชุม เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2526 ประธานกรรมการอำนวยการได้เรียกประชุมกรรมการที่เหลืออยู่ 7 คน เพื่อเลือกตั้งกรรมการเพิ่มเติมจำนวน 8 คน ซึ่งมีคุณสมบัติครบถ้วนแล้วนำจดทะเบียนต่อกรุงเทพมหานคร แต่ทางกรุงเทพมหานครแจ้งว่าไม่อาจรับจดทะเบียนให้ได้ เพราะการประชุมเลือกกรรมการซ่อมไม่ครบองค์ประชุมตามตราสารมติที่ประชุมใช้ไม่ได้ จึงขอให้มีคำสั่งแต่งตั้งกรรมการตามบัญชีรายชื่อกรรมการมูลนิธิเพิ่มเติมเอกสารท้ายคำร้องหมายเลข 3 เป็นกรรมการชั่วคราวเพื่อดำเนินการประชุมเลือกตั้งกรรมการซ่อมแทนตำแหน่งที่ว่างให้ถูกต้องตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 79
ผู้คัดค้านทั้งสองยื่นคำคัดค้านว่า การที่ผู้ร้องอ้างว่ารายชื่อกรรมการเพิ่มเติม 8 คนนั้นได้ผ่านการคัดเลือกจากกรรมการที่เหลืออยู่ทั้งเจ็ดคนแล้วไม่เป็นความจริงเพราะผู้คัดค้านทั้งสองไม่มีส่วนรู้เห็นแต่ประการใด ผู้คัดค้านเห็นว่าบุคคลทั้งแปดไม่เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งกรรมการชั่วคราว
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งให้นายดิเรก กุลสิริสวัสดิ์นางบุญระย้า วีระเสถียร นายอรรถสิทธิ์ ภักดีธรรม นายดำรงพงศ์พิมล นางสาวสุรินทร์ จิราพันธ์ นายวิรัช มานเมาะนายสุรินทร์ ประจักษ์ธรรม และนายณรงค์ กลับเกษม ตามเอกสารหมายร.3 (ที่ถูกน่าจะเป็น ร.7) ท้ายคำร้อง ร่วมเป็นกรรมการเพิ่มเติมมูลนิธิอัสสละฟียะฮ์ตามขอ
ผู้คัดค้านทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้คัดค้านทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “การที่ผู้คัดค้านไม่เห็นพ้องด้วยกับการแต่งตั้งกรรมการใหม่ 8 คนนั้น มิได้แสดงว่าความเห็นของผู้คัดค้านจะถูกต้องเสมอไป การแต่งตั้งกรรมการในกรณีเช่นนี้ย่อมจะทำให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนพอใจได้ยาก การขัดแย้งกันในด้านความเห็นย่อมเกิดขึ้นได้เป็นธรรมดา การที่กรรมการใหม่ปฏิบัติศาสนกิจไม่ตรงกับผู้คัดค้านก็มิได้แสดงว่าผู้คัดค้านเป็นฝ่ายที่ปฏิบัติศาสนกิจถูกต้องกว่ากรรมการใหม่ สำหรับความเสียหายที่ผู้คัดค้านอ้างว่าอาจเกิดขึ้นนั้นก็เป็นเพียงการคาดคะเนเท่านั้น”
พิพากษายืน

Share