คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4005/2546

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยอุทธรณ์พร้อมกับยื่นคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นให้พิจารณาคำขออุทธรณ์อย่างคนอนาถานั้นใหม่เพื่ออนุญาตให้จำเลยนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าตนเป็นคนยากจนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคสี่ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องอันเป็นการวินิจฉัยชี้ขาดประเด็นในเรื่องขอให้พิจารณาคำขออุทธรณ์อย่างคนอนาถานั้นใหม่แล้ว การที่จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคำขออุทธรณ์อย่างคนอนาถานั้นใหม่อีกในประเด็นเดียวกัน ย่อมเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลนั้นอันเกี่ยวกับประเด็นที่ได้วินิจฉัยชี้ขาดแล้ว จึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำตามมาตรา 144 วรรคหนึ่ง

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 7,007,607บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ 2 ตุลาคม2540 จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ดอกเบี้ยถึงวันฟ้องให้ไม่เกิน 1,468,677.63 บาทกับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 20,000 บาท

จำเลยอุทธรณ์และยื่นคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งว่า จำเลยมีเงินพอเสียค่าธรรมเนียมศาลได้ มิได้ยากจนจริง ให้ยกคำร้องของจำเลยให้จำเลยนำเงินค่าธรรมเนียมศาลมาชำระภายใน 30 วัน นับแต่วันฟังคำสั่งวันที่ 22มกราคม 2545 จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นพิจารณาคำขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาใหม่ เพื่ออนุญาตให้จำเลยนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าตนเป็นคนยากจนศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้องขอของจำเลย และให้จำเลยนำเงินค่าธรรมเนียมศาลมาชำระภายใน 30 วัน นับแต่วันฟังคำสั่ง ต่อมาวันที่ 14 มิถุนายน2545 จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นพิจารณาคำขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาใหม่เพื่ออนุญาตให้จำเลยนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าตนเป็นคนยากจนอีกศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า การยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคำขอใหม่กระทำได้เมื่อศาลมีคำสั่งคำขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาที่ยื่นต่อศาลในครั้งแรก เมื่อจำเลยใช้สิทธิยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคำขอใหม่ และศาลมีคำสั่งยกคำร้องแล้ว จำเลยไม่มีสิทธิที่จะยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคำขอใหม่อีก จึงให้ยกคำร้อง

จำเลยอุทธรณ์คำสั่ง

ศาลอุทธรณ์ภาค 7 มีคำสั่งว่า ตามคำร้องของจำเลยลงวันที่ 14 มิถุนายน 2545เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำกับคำร้องของจำเลยลงวันที่ 22 มกราคม 2545จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144 ให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลย หากจำเลยยังติดใจอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลชั้นต้น ก็ให้จำเลยนำเงินค่าธรรมเนียมศาลมาชำระต่อศาลชั้นต้นภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันทราบคำสั่ง

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า การที่จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นพิจารณาคำขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาใหม่เพื่ออนุญาตให้จำเลยนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าตนเป็นคนยากจนฉบับลงวันที่ 14 มิถุนายน2545 เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำหรือไม่ เห็นว่า เมื่อจำเลยอุทธรณ์พร้อมกับยื่นคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถา และศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องดังกล่าว จำเลยก็มีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นให้พิจารณาคำขออุทธรณ์อย่างคนอนาถานั้นใหม่เพื่ออนุญาตให้จำเลยนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าตนเป็นคนยากจนได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคสี่ ซึ่งจำเลยก็ได้ยื่นคำร้องดังกล่าวตามคำร้องฉบับลงวันที่ 22 มกราคม 2545 และศาลชั้นต้นได้ไต่สวนและมีคำสั่งให้ยกคำร้อง จึงเป็นการวินิจฉัยชี้ขาดประเด็นในเรื่องขอให้พิจารณาคำขออุทธรณ์อย่างคนอนาถานั้นใหม่แล้ว การที่จำเลยกลับมายื่นคำร้องฉบับลงวันที่ 14 มิถุนายน 2545ขอให้พิจารณาคำขออุทธรณ์อย่างคนอนาถานั้นใหม่อีกในประเด็นเดียวกัน ย่อมเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลนั้นอันเกี่ยวกับประเด็นที่ได้วินิจฉัยชี้ขาดแล้ว อันเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144วรรคหนึ่ง ที่ศาลล่างทั้งสองมีคำสั่งมานั้นชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”

พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ หากจำเลยประสงค์จะดำเนินคดีต่อไปให้นำเงินค่าธรรมเนียมศาลชั้นอุทธรณ์มาชำระต่อศาลชั้นต้นภายใน 15 วัน นับแต่วันฟังคำพิพากษานี้

Share