คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3996/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การนัดหยุดงานเป็นมาตรการที่ลูกจ้างกระทำเพื่อบีบบังคับให้นายจ้างต้องยอมตามข้อเรียกร้องของฝ่ายลูกจ้าง ก่อให้เกิดความเสียหายแก่กิจการของนายจ้าง นายจ้างไม่ได้รับประโยชน์จากแรงงานของลูกจ้าง การจ้างแรงงานเป็นสัญญาต่างตอบแทนโดยลูกจ้างมีหน้าที่ต้องทำงานให้แก่นายจ้างและนายจ้างมีหน้าที่ต้องจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้าง การที่ลูกจ้างนัดหยุดงานย่อมจะต้องเล็งเห็นความเสียหายอันจะเกิดแก่นายจ้าง และลูกจ้างก็ต้องยอมรับผลแห่งการที่ไม่ได้ทำงานแก่นายจ้างด้วย ดังนั้น เมื่อทั้งลูกจ้างซึ่งนัดหยุดงานและนายจ้างก็ปิดงานเป็นการโต้ตอบกันโดยสมัครใจและถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมายเกี่ยวกับแรงงานแล้วจึงเรียกร้องสิทธิอันจะพึงเกิดจากการจ้างแรงงานหาได้ไม่ ลูกจ้างจึงไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างระหว่างนัดหยุดงาน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทั้งหกสิบแปดคนเป็นลูกจ้างประจำรายเดือนของจำเลย จำเลยกำหนดจ่ายค่าจ้างเดือนละ ๒ ครั้ง คือในวันที่ ๑๐ และวันที่ ๒๕ ของเดือน เมื่อวันที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๒๔ จำเลยไม่จ่ายค่าจ้างให้โจทก์ทั้งหกสิบแปดคนรวมเป็นเงิน ๗๓,๙๓๐ บาท ขอให้ศาลบังคับจำเลยจ่ายค่าจ้างจำนวน ๗๓,๙๓๐ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละสิบห้าต่อปีนับแต่วันที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๒๔ จนกว่าจะชำระแก่โจทก์ทั้งหกสิบแปดเสร็จ
จำเลยให้การว่า เมื่อวันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๒๔ โจทก์ทั้งหกสิบแปดกับพวกได้นัดหยุดงานตั้งแต่วันที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๒๔ ตั้งแต่เวลา ๑๔.๓๐ นาฬิกาเป็นต้นไปจนถึงวันที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๒๔ เวลา ๖.๐๐ นาฬิกา เพื่อเป็นการป้องกันความเสียหายอันจะเกิดขึ้นแก่ทรัพย์สินของจำเลยและอาศัยสิทธิตามกฎหมาย จำเลยจึงประกาศปิดงานงดจ้าง โดยไม่จ่ายค่าจ้างนับตั้งแต่วันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๒๔ เวลา ๑๗.๐๐ นาฬิกาเป็นต้นไปและได้แจ้งให้ตัวแทนลูกจ้างและพนักงานประนอมข้อพิพาททราบล่วงหน้าเป็นเวลา ๒๔ ชั่วโมงแล้ว ต่อมาเมื่อสถานการณ์คลี่คลายไปในทางที่ดี จำเลยจึงประกาศเปิดงานให้ลูกจ้างเข้าปฏิบัติงานตามปกติ ตั้งแต่วันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๒๔ เมื่อกำหนดการจ่ายเงินเดือนในวันที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๒๔ เป็นการจ่ายค่าจ้างสำหรับการทำงานช่วงเวลา ๑๖ สิงหาคม ถึงวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๒๔ ดังกล่าวแล้ว เป็นช่วงที่โจทก์ทั้งหกสิบแปดกับพวกมิได้ทำงานตามปกติเพราะมีการนัดหยุดงานและจำเลยได้ประกาศปิดงานถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย จำเลยจึงได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายไม่จำต้องจ่ายค่าจ้างในระหว่างการนัดหยุดงานและปิดงานให้แก่โจทก์ทั้งหกสิบแปดโดยเฉพาะค่าจ้างของวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๒๔ ซึ่งเป็นวันที่โจทก์ทั้งหกสิบแปดกับพวกเข้าทำงานตามปกตินั้น จำเลยได้จ่ายรวมไปถึงค่าจ้างงวดวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๒๔ แล้ว ขอให้ยกฟ้อง
วันนัดพิจารณา จำเลยยื่นคำแถลงว่าโจทก์ตามบัญชีรายชื่อเอกสารท้ายคำแถลงจำนวน ๑๔ คน มิได้เป็นผู้ลงชื่อสนับสนุนข้อเรียกร้อง ค่าจ้างอัตราสุดท้ายของโจทก์ทั้งหกสิบแปดเป็นต้นไปตามเอกสารท้ายคำแถลงและจำเลยได้จ่ายค่าจ้างเฉพาะวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๒๔ ให้แก่โจทก์ทั้งหกสิบแปดไปแล้ว โดยจ่ายรวมกับค่าจ้างงวดวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๒๔ จำเลยส่งเอกสารรวม ๔ ชุด โจทก์รับข้อเท็จจริงตามคำแถลงความมีอยู่และความถูกต้องของเอกสาร โจทก์จำเลยแถลงไม่สืบพยาน
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า สัญญาจ้างแรงงานเป็นสัญญาต่างตอบแทนคู่สัญญาฝ่ายหนึ่ง จะเรียกร้องให้อีกฝ่ายหนึ่งปฏิบัติตามข้อสัญญาก็ต่อเมื่อฝ่ายตนได้ปฏิบัติหรือพร้อมจะปฏิบัติตามข้อผูกพันนั้นแล้ว เมื่อโจทก์เป็นฝ่ายไม่ปฏิบัติตามสัญญาก่อนคือนัดหยุดงาน โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิจะเรียกร้องให้ฝ่ายจำเลยปฏิบัติตามสัญญาจ้าง คือจ่ายค่าจ้างพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์ทั้งหกสิบแปดอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า การนัดหยุดงานเป็นมาตรการที่ลูกจ้างกระทำเพื่อบีบบังคับให้นายจ้างต้องยอมตามข้อเรียกร้องของฝ่ายลูกจ้างและมาตรการดังกล่าวย่อมก่อให้เกิดความเสียหายแก่กิจการของนายจ้างที่ไม่สามารถดำเนินกิจการไปได้ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือนายจ้างไม่ได้รับประโยชน์จากแรงงานของลูกจ้าง การจ้างแรงงานเป็นสัญญาต่างตอบแทนโดยลูกจ้างมีหน้าที่ต้องทำงานให้แก่นายจ้าง และนายจ้างมีหน้าที่ต้องจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้าง การที่โจทก์ทั้งหกสิบแปด ซึ่งเป็นลูกจ้างนัดหยุดงานก็ย่อมจะต้องเล็งเห็นความเสียหายอันเกิดแก่จำเลยซึ่งเป็นนายจ้าง และนัยดังกล่าว โจทก์ทั้งหกสิบแปดก็ต้องยอมรับผลแห่งการนัดหยุดงานหรือ การที่ไม่ได้ทำงานให้แก่จำเลยด้วย มิฉะนั้นจะกลายเป็นว่าโจทก์ทั้งหกสิบแปดมีสิทธินัดหยุดงานโดยที่จำเลยต้องเสียหายมิได้รับประโยชน์จากแรงงานของโจทก์ทั้งหกสิบแปด ซึ่งโจทก์ทั้งหกสิบแปดยังมีสิทธิได้รับค่าจ้างตามปกติอีก ถึงแม้โจทก์ทั้งหกสิบแปดคนเป็นลูกจ้างประจำรายเดือน แต่กรณีแตกต่างกับการลาหยุดงานโดยชอบของลูกจ้างซึ่งอาจจะเป็นเพราะป่วยซึ่งเป็นที่เห็นได้ว่าลูกจ้างมิได้มุ่งประสงค์จะไม่ทำงานหรือก่อความเสียหายให้แก่นายจ้าง หากมีความจำเป็นจึงจำต้องลา ลูกจ้างจึงย่อมจะคงได้รับค่าจ้างตามปกติ ดังนี้ เมื่อโจทก์ทั้งหกสิบแปดคนและจำเลยต่างนัดหยุดงานและปิดงานเป็นการโต้ตอบกันโดยสมัครใจและถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมายเกี่ยวกับแรงงานแล้วก็จะเรียกร้องสิทธิอันจะพึงเกิดจากการจ้างแรงงานหาได้ไม่ และกรณีนี้โจทก์ทั้งหกสิบแปดคนจะเรียกร้องค่าจ้างระหว่างนัดหยุดงานจากจำเลยมิได้
พิพากษายืน

Share