คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3964/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การกระทำที่จะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 184 จะต้องเป็นการกระทำเพื่อจะช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษหรือให้รับโทษน้อยลง
จำเลยดำรงตำแหน่งป่าไม้อำเภอได้ร่วมกับพวกเผาไม้ท่อน 12 ท่อนซึ่งพนักงานสอบสวนได้ยึดและรักษาไว้เพื่อเป็นพยานหลักฐานในการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ โดยไม้ดังกล่าวมีดวงตราประจำตัวของจำเลยตีประทับที่หน้าตัดของไม้ทุกท่อนและกำลังอยู่ในระหว่างตรวจสอบว่าเป็นไม้ซึ่งได้ถูกตัดมาโดยถูกต้องตามขั้นตอนและระเบียบกฎหมายหรือไม่ จึงเป็นกรณีที่จำเลยกระทำไปด้วยเจตนาเพื่อช่วยให้ตนเองพ้นจากความผิดที่ตนอาจได้รับ จึงไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 184

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔๒,๑๘๔, ๘๓
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๔๒, ๑๘๔, ๘๓ เป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ลงโทษบทหนักตามมาตรา ๑๘๔ จำคุก ๒ ปี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยได้ร่วมกับพวกเผาไม้ท่อน ๑๒ ท่อนซึ่งเป็นไม้ที่พนักงานสอบสวนได้ทำการตรวจยึดไว้และมีดวงตราประจำตัวของจำเลยซึ่งเป็นป่าไม้อำเภอตีประทับที่หน้าตัดของไม้ทุกท่อน และไม้ท่อนดังกล่าวกำลังอยู่ในระหว่างตรวจสอบว่าเป็นไม้ซึ่งได้ถูกตัดมาโดยถูกต้องตามขั้นตอนและระเบียบกฎหมายหรือไม่การที่จำเลยกับพวกเผาท่อนไม้ทั้ง ๑๒ ท่อน จำเลยกระทำไปด้วยเจตนาเพื่อช่วยตนเองให้พ้นจากความผิดที่ตนอาจได้รับ เพราะไม้ท่อนทั้ง ๑๒ ท่อน มีดวงตราประจำตัวของจำเลยตีประทับอยู่ จำเลยมิได้กระทำเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษจึงไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๘๔
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๔๒ จำคุก ๑ ปี นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.

Share