แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยที่ 1 เป็นบุตรของ น. ได้ร่วมออกเงินให้ น.ไปหาซื้อไม้ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งจำเลยที่ 1 ได้ร่วมไปกับน. และช่วยขนไม้ของกลางบรรทุกรถ นั่งคุมไม้ของกลางมากับน.จนถูกจับกุม ถือได้ว่าจำเลยที่1ร่วมกับ น.มีไม้แปรรูปไว้ในครอบครอง ส่วนจำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 เป็นบุตรและหลานของน. น.ให้จำเลยที่ 1 ชวนจำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 ไปช่วยขนไม้ของกลางขึ้นรถ และจำเลยที่ 6 นั้น น.ขอร้องให้นำรถไปช่วยบรรทุกไม้ของกลางมาโดยน.ได้นั่งมาในรถด้วย จำเลยที่ 2ถึงที่ 6 ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการครอบครองไม้ของกลางแต่อย่างใด จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 ถึงที่ 6 ร่วมกับ น.ครอบครองไม้ของกลาง การกระทำของจำเลยที่ 2 ถึงที่ 6 เป็นเพียงการให้ความช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่ น.และจำเลยที่ 1 อันเป็นความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86 เท่านั้น.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2527 เวลากลางคืนหลังเที่ยง จำเลยทั้งหกกับนายหน่อ พรมมา จำเลยในคดีอาญา หมายเลขแดงที่ 1100/2527 ของศาลชั้นต้นได้ร่วมกันมีไม้จำปีป่าแปรรูป ไม้ตะเคียนหนูหรือเหวแปรรูป และไม้ยางแปรรูป ซึ่งเป็นจำนวนเกิน0.20 ลูกบาศก์เมตร และเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. และร่วมกันมีไม้ลุงแปรรูปเกิน 0.20 ลูกบาศก์เมตร และเป็นไม้หวงห้ามประเภท ข.รวมไม้ทั้งสิ้น 490 แผ่น/เหลี่ยม รวมปริมาตรไม้แปรรูปทั้งสิ้น6.41 ลูกบาศก์เมตร ไว้ในความครอบครองของจำเลยทั้งหกกับพวกดังกล่าวโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามวันเวลาดังกล่าวข้างต้นเจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยทั้งหกกับพวกดังกล่าวได้พร้อมด้วยไม้แปรรูป จำนวน 490 แผ่น/เหลี่ยม ซึ่งจำเลยทั้งหกกับพวกร่วมกันมีไว้เป็นของกลาง และศาลได้มีคำพิพากษาริบไว้แล้วตามคดีหมายเลขแดงที่ 1100/2527 ของศาลชั้นต้น เหตุเกิดที่ตำบลเวียงชัยอำเภอเวียงชัย จังหวัดเชียงราย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 7, 48, 73, 74 พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2518 มาตรา 7, 19 พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2522 มาตรา 9พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2525 มาตรา 4 พระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ. 2505 มาตรา 4 ประกาศกระทรวงเกษตร เรื่องกำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้ ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83
จำเลยทั้งหกให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งหกมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 7, 48, 73 พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 5)พ.ศ. 2518 มาตรา 7, 19 พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2522มาตรา 9 พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2525 มาตรา 4 จำเลยที่2 ที่ 3 ที่ 4 อายุ 19 ปี และ 18 ปี แต่เห็นว่าเป็นผู้มีความรู้สึกรับผิดชอบดีแล้วไม่สมควรลดมาตราส่วนโทษให้ จึงให้จำคุกจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และที่ 6 คนละ 1 ปี จำเลยที่ 5มีอายุ 16 ปี ลดมาตราส่วนโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 75 จำคุก 6 เดือน จำเลยทั้งหกให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 ที่ 2ที่ 3 ที่ 4 และที่ 6 คนละ 8 เดือน จำคุกจำเลยที่ 5 มีกำหนด 4เดือน
จำเลยทั้งหกอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นบุตรชายของนายหน่อได้ร่วมออกเงินให้นายหน่อไปหาซื้อไม้ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายทั้งวันไปหาซื้อไม้ของกลางจำเลยที่ 1ได้ร่วมไปกับนายหน่อและช่วยขนไม้ของกลางบรรทุกรถ นั่งคุมไม้ของกลางมากับนายหน่อจนถูกจับกุม เช่นนี้ จึงถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ร่วมกับนายหน่อมีไม้แปรรูปของกลางไว้ในครอบครองโดยไม่อนุญาตซึ่งมีความผิดตามฟ้อง ส่วนจำเลยที่ 2 ถึงที่ 5แม้จะเป็นบุตรชายและหลานของนายหน่อก็ได้ความเพียงว่า นายหน่อให้จำเลยที่ 1 ไปชวนจำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 ไปช่วยขนไม้ของกลางเท่านั้น และจำเลยที่ 6 นั้นนายหน่อเป็นผู้ไปขอร้องให้นำรถไปช่วยบรรทุกไม้ของกลางมาโดยนายหน่อได้นั่งมาในรถตอนถูกจับกุมด้วย จำเลยที่ 2 ถึงที่ 6 ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการครอบครองไม้ของกลางแต่อย่างใด จึงถือว่าจำเลยที่ 2 ถึงที่6 ร่วมกับนายหน่อครอบครองไม้ของกลางไม่ได้ การกระทำของจำเลยที่ 2 ถึงที่ 6 เป็นเพียงการให้ความช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่นายหน่อและจำเลยที่ 1 ซึ่งกระทำความผิด อันเป็นการสนับสนุนการกระทำความผิด จำเลยที่ 2 ถึงที่ 6 จึงมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86
พิพากษากลับ จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484มาตรา 4, 48, 73 พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2518 มาตรา 7,19 พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2522 มาตรา 7 พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2525 มาตรา 4 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ลงโทษจำคุก 1 ปี จำเลยที่ 2 ถึงที่ 6 มีความผิดฐานสนับสนุนการมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ. 2484 มาตรา 7, 48, 73 พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2518มาตรา 7, 19 พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2522 มาตรา 7พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2525 มาตรา 4 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 ให้วางโทษจำเลยที่ 2 ถึงที่ 6 เพียง 2ใน 3 ของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดฐานมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 อายุ 19ปี และ 18 ปี มีความรู้สึกผิดชอบดีแล้วไม่สมควรลดมาตราส่วนโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2 ที่ 3ที่ 4 และที่ 6 คนละ 8 เดือน จำเลยที่ 5 มีอายุ 16 ปี ลดมาตราส่วนโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 75 แล้วลงโทษจำคุก 4เดือน จำเลยทุกคนให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้คนละ 1 ใน 3 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 8 เดือน จำคุกจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และที่ 6 คนละ 5 เดือน 10 วัน จำคุกจำเลยที่ 5 มีกำหนด 2 เดือน 20 วัน แต่ให้รอการลงโทษไว้มีกำหนดคนละ 3 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56.