คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3914/2533

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยให้การรับสารภาพว่าได้เล่นการพนันสลากกินรวบ โดยเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ตามฟ้องโจทก์จริง เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษา โจทก์ฝ่ายเดียวอุทธรณ์ขอไม่ให้รอการลงโทษแก่จำเลยโดยจำเลยมิได้อุทธรณ์ ดังนั้นการที่จำเลยฎีกาว่ามิได้กระทำผิดฐานเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ จึงเป็นปัญหาข้อเท็จจริงที่ยุติแล้ว และเป็นปัญหาที่มิได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478มาตรา 4, 5, 6, 10, 12, 15, พระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ 5)พ.ศ. 2490 มาตรา 3 พระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ 7)พ.ศ. 2504 มาตรา 3 ริบของกลาง และจ่ายสินบนนำจับตามกฎหมาย
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4, 5, 6, 10, 12, 15 ที่แก้ไขแล้วจำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 3 เดือน และปรับ 2,500 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 โทษปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ริบของกลางกับให้จำเลยจ่ายสินบนนำจับกึ่งหนึ่งของค่าปรับ
โจทก์อุทธรณ์ขอไม่ให้รอการลงโทษ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำคุก 4 เดือนสถานเดียว จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 จำคุก 2 เดือน ไม่รอการลงโทษและไม่จ่ายสินบนนำจับ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกาโดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาในศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่จำเลยฎีกาว่า จำเลยมิได้กระทำผิดฐานเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ตามฟ้องนั้น เห็นว่าจำเลยได้ให้การรับสารภาพว่าได้เล่นการพนันสลากกินรวบโดยเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ตามฟ้องโจทก์จริง เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาโจทก์ฝ่ายเดียวอุทธรณ์ขอไม่ให้รอการลงโทษแก่จำเลย โดยจำเลยมิได้อุทธรณ์ว่าจำเลยมิได้กระทำผิด ดังนั้น การที่จำเลยฎีกาว่าจำเลยมิได้เป็นเจ้ามือรับกินรับใช้จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงที่ยุติแล้ว และเป็นปัญหาที่มิได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยฎีกาจำเลยข้อนี้ ส่วนปัญหาว่าสมควรรอการลงโทษให้จำเลยหรือไม่นั้น ปรากฎหลักฐานในสำนวนว่าของกลางที่ยึดได้จากจำเลยคงมีโพยสลากกินรวบ 4 ชิ้น และปากกา 1 ด้ามแต่มิได้เงินสดเป็นของกลางด้วย พฤติการณ์แห่งคดีมิใช่เป็นการเล่นการพนันสลากกินรวบรายใหม่ จำเลยเป็นหญิงไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน เพื่อให้โอกาสจำเลยประพฤติตนเป็นพลเมืองดีต่อไปศาลฎีกาเห็นสมควรรอการลงโทษจำคุกให้โดยให้ลงให้โดยให้ลงโทษตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share