แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เจ้าหนี้ได้ทำหนังสือมอบอำนาจให้โจทก์ฟ้องความ มีข้อความว่า ‘เป็นผู้มีอำนาจเป็นโจทก์และดำเนินกระบวนพิจารณาฟ้องร้องบริษัทมหาสุวรรณจำเลย เพื่อเรียกเงินค่าวางประกันการใช้ไฟฟ้าค่าหม้อวัดกระแสไฟฟ้าและค่าเสียหายอื่นใดอันเกี่ยวกับคดีนี้ต่อศาลแทนข้าพเจ้าทุกประการ’ ดังนี้ เป็นการมอบอำนาจให้ฟ้องเรียกเงินค่าวางประกันการใช้ไฟฟ้า ฯลฯ เป็นการมอบให้ฟ้องคดีแพ่งสามัญโดยตรง โจทก์จึงไม่มีสิทธิอาศัยหนังสือมอบอำนาจนี้มาฟ้องบริษัทมหาสุวรรณเป็นจำเลยในคดีล้มละลายได้
ย่อยาว
คดีนี้ นายประคอง เทวารุทธ กับพวกรวม 3 คน ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากนายอรุณ มิลินทสูตร กับพวกรวม 262 คน ได้เป็นโจทก์ฟ้องบริษัทมหาสุวรรณเป็นจำเลย ขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายเนื่องจากจำเลยได้เลิกกิจการไฟฟ้าโดยโอนให้แก่องค์การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแล้ว แต่ไม่ยอมคืนเงินมัดจำและเงินค่าตู้เครื่องวัดกระแสไฟฟ้ารวมเป็นเงิน 95,432.50 บาท
จำเลยปฏิเสธฟ้องและตัดฟ้องว่า โจทก์ทั้ง 3 จะเป็นผู้รับมอบอำนาจจากพวก 262 คน หรือไม่ ไม่ทราบ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า หนังสือมอบอำนาจไม่ได้กินความถึงการฟ้องล้มละลาย พิพากษายกฟ้องและให้ถอนการพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราว
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาและพิพากษาต่อไปตามกระบวนความ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า หนังสือมอบอำนาจ ข้อ 1 ความว่า “เป็นผู้มีอำนาจเป็นโจทก์และดำเนินกระบวนพิจารณาฟ้องร้องบริษัทมหาสุวรรณจำเลยเพื่อเรียกเงินค่าวางประกันการใช้ไฟฟ้า ค่าหม้อเครื่องวัดกระแสไฟฟ้าและค่าเสียหายอื่นใด อันเกี่ยวกับคดีนี้ต่อศาลแทนข้าพเจ้าได้ทุกประการ” เห็นได้ชัดว่าเป็นการมอบอำนาจให้ฟ้องเรียกเงินค่าวางประกันการใช้ไฟฟ้า ฯลฯ เป็นการมอบให้ฟ้องในทางคดีแพ่งสามัญโดยตรง หาได้ระบุมอบอำนาจให้ฟ้องเป็นคดีล้มละลายประการใดไม่ โจทก์จึงไม่มีสิทธิอาศัยหนังสือมอบอำนาจนี้มาฟ้องจำเลยเป็นคดีล้มละลายได้
พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์