คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 385/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายถึงบาดเจ็บสาหัส ทางพิจารณาได้ความว่า มีการชุลมุนต่อสู้กันระหว่างบุคคลตั้งแต่สามคนขึ้นไป และโจทก์ร่วมได้รับอันตรายสาหัสจากการชุลมุนต่อสู้นั้น เป็นเรื่องข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง เพราะขาดข้อเท็จจริงอันเป็นข้อสาระสำคัญเป็นองค์ความผิด หาใช่เพียงแตกต่างกันในรายละเอียดที่ต้องกล่าวมาในฟ้องเท่านั้นไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้ร่วมกันทำร้ายร่างกายนางฟูตี้ แซ่ผู่ ตาบอดทุพพลภาพตลอดชีวิต ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๗
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่านางสงกรานต์ ผู้เดียวมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๙ ให้จำคุกนางสงกรานต์ ๖ เดือน ลดโทษ ๑ ใน ๓ คงจำคุก ๔ เดือน แต่ให้รอการลงโทษไว้ ๒ ปี ปล่อยนางยังจำเลย
โจทก์ร่วมอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ยกฟ้อง
อัยการโจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ฟ้องบรรยายข้อเท็จจริงเป็นสาระสำคัญว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันทำร้ายร่างกายโจทก์ร่วม แต่ทางพิจารณาได้ความเพียงว่า นางสงกรานต์จำเลยคนหนึ่งชุลมุนต่อสู้ระหว่างบุคคลตั้งแต่สามคนขึ้นไป โจทก์ร่วมได้รับอันตรายสาหัสเพราะการกระทำในการชุลมุนต่อสู้ระหว่างบุคคลตั้งแต่สามคนขึ้นไป โจทก์ร่วมได้รับอันตรายสาหัสเพราะการกระทำในการชุลมุนต่อสู้กันนั้น สารสำคัญในความผิดที่พิจารณาได้ความคือมีการชุลมุนต่อสู้ระหว่างบุคคลตั้งแต่สามคนขึ้นไป สาระสำคัญเหล่านี้ไม่มีปรากฏในข้อเท็จจริงตามคำฟ้องของโจทก์เลย โจทก์บรรยายฟ้องเพียงว่าจำเลยทั้งสองทำร้ายร่างกายโจทก์แต่ฝ่ายเดียว ไม่มีการชุลมุนต่อสู้กันแต่อย่างใด ข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในทางพิจารณาจึงแตกต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง ขาดข้อเท็จจริงอันเป็นข้อสาระสำคัญเป็นองค์ความผิด หาใช่เพียงแตกต่างกันในรายละเอียดที่ต้องกล่าวมาในฟ้องเท่านั้นไม่ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ชอบแล้ว
พิพากษายืน

Share