คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3804/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ทั้งสองเป็นผู้ถือหุ้นและเป็นกรรมการของบริษัท ร. จำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ออกคำสั่งให้ควบคุมบริษัท ร. แล้วตั้งจำเลยที่ 3 ถึงที่ 7 เป็นคณะกรรมการควบคุมซึ่งเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยที่ 3 ถึงที่ 7 ใช้สิทธิโดยไม่สุจริตเสนอรายงานต่อจำเลยที่ 8 ว่าบริษัท ร. ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ จำเลยที่ 8 ซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในขณะนั้นจึงสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจเงินทุนและธุรกิจหลักทรัพย์ของบริษัทร. ซึ่งเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้พิพากษาว่าคำสั่งที่ตั้งจำเลยที่ 3 ถึงที่ 7 เป็นคณะกรรมการควบคุมบริษัท ร. และคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตไม่ชอบด้วยกฎหมายให้จำเลยเพิกถอนเสีย ดังนี้ การกระทำของจำเลยทั้งแปดตามที่โจทก์กล่าวในฟ้องเป็นการกระทำต่อบริษัท ร. ซึ่งเป็นนิติบุคคลมีสิทธิและหน้าที่ต่างหากจากโจทก์ทั้งสองผู้ที่ได้รับความเสียหายเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ก็คือบริษัทร. ถือไม่ได้ว่าโจทก์ทั้งสองในฐานะเป็นผู้ถือหุ้นและกรรมการของบริษัท ร. ถูกโต้แย้งสิทธิ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทั้งสองเป็นผู้ถือหุ้นและเป็นกรรมการของบริษัท ราชาเงินทุนจำกัด จำเลยที่ ๑ โดยจำเลยที่ ๒ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ออกคำสั่งควบคุมบริษัทดังกล่าวแล้วตั้งจำเลยที่ ๓ ถึงที่ ๗ ซึ่งเป็นข้าราชการและพนักงานของธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นคณะกรรมการควบคุม เป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายแล้วจำเลยที่ ๓ ถึงที่ ๗ โดยไม่สุจริตรายงานต่อจำเลยที่ ๘ ว่าบริษัทดังกล่าวไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ จำเลยที่ ๘ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในขณะนั้น จึงสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจเงินทุนและธุรกิจหลักทรัพย์ของบริษัทดังกล่าว ซึ่งเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้จำเลยเพิกถอนคำสั่งตั้งคณะกรรมการควบคุมและคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตดังกล่าวเสีย
จำเลยทั้งแปดให้การว่า โจทก์ทั้งสองไม่ใช่ผู้เสียหายหรือถูกโต้แย้งสิทธิไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกฟ้อง
โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาสมควรวินิจฉัยเป็นอันดับแรกว่าโจทก์ทั้งสองในฐานะเป็นผู้ถือหุ้น เป็นกรรมการและเป็นเจ้าหนี้ของบริษัทราชาเงินทุนจำกัด มีอำนาจฟ้องจำเลยหรือไม่ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า การกระทำของจำเลยทั้งแปดตามที่โจทก์กล่าวในฟ้อง เป็นการกระทำต่อบริษัทราชาเงินทุน จำกัดซึ่งเป็นนิติบุคคล มีสิทธิและหน้าที่ต่างหากจากโจทก์ทั้งสอง ผู้ที่ได้รับความเสียหายถูกโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ก็คือบริษัทราชาเงินทุน จำกัดถือไม่ได้ว่าโจทก์ทั้งสองในฐานะดังกล่าวถูกโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ตามกฎหมายด้วย อนึ่ง คำฟ้องของโจทก์แสดงชัดว่ามุ่งประสงค์ให้บริษัทราชาเงินทุน จำกัด หลุดพ้นจากคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาต ได้ประกอบธุรกิจเงินทุนและธุรกิจหลักทรัพย์ตามเดิม มีผลเป็นการฟ้องเพื่อประโยชน์ของบริษัทราชาเงินทุน จำกัด หรือฟ้องแทนบริษัทราชาเงินทุน จำกัด โดยตรงศาลฎีกาเห็นพ้องกับศาลอุทธรณ์ว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
พิพากษายืน

Share