แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 24 ได้ จะต้องปรากฏว่าคดีนั้นมีข้อเท็จจริงเพียงพอที่ศาลจะรับฟังได้ หรือเป็นข้อเท็จจริงที่ยุติแล้ว มิใช่ว่าเมื่อคู่ความฝ่ายใดยื่นคำร้องเข้ามาแล้ว โดยจะมีข้อเท็จจริงอยู่หรือไม่ ศาลจะต้องวินิจฉัยชี้ขาดให้เสมอไป
โจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้อง ส่วนจำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมาย เมื่อศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีไม่มีเหตุที่จะวินิจฉัยเบื้องต้นและสั่งยกคำร้องของจำเลยไปแล้ว ก็ย่อมใช้ดุลพินิจอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องให้จำเลยทั้งสิบร่วมกันชำระเงิน 8,228,241.02 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยให้แก่โจทก์
จำเลยที่ 4 ถึงที่ 6 และที่ 10 ถึงที่ 14 ยื่นคำให้การต่อสู้คดีไว้แล้ว ส่วนจำเลยนอกนั้นยังมิได้ยื่นคำให้การ
ต่อมาวันที่ 19 พฤศจิกายน 2528 โจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องทั้งหมดโดยอ้างว่าจำเลยที่ 1 ได้ถึงแก่ความตายไปก่อนที่โจทก์ฟ้องคดีนี้แล้ว โจทก์จึงขอถอนฟ้องจำเลยทั้งหมดเพื่อสืบหาทายาทของจำเลยที่ 1 และจะได้ฟ้องจำเลยทั้งหมดเป็นคดีใหม่ในคราวเดียวกัน
จำเลยที่ 4 ถึงที่ 6 และที่ 10 ถึงที่ 14 ยื่นคำคัดค้านการขอถอนฟ้องของโจทก์ และจำเลยที่ 10 ถึงที่ 14 ยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายตามประเด็นที่จำเลยต่อสู้ไว้ในคำให้การ
ศาลชั้นต้นยกคำร้องของจำเลยและสั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องจำเลยทั้งหมด
จำเลยที่ 10 ถึงที่ 14 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 10 ถึงที่ 14 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ‘พิเคราะห์แล้วเห็นว่า การที่ศาลจะวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 24 ได้นั้น กรณีจะต้องปรากฏว่าข้อเท็จจริงซึ่งจะนำมาวินิจฉัยชี้ขาดในปัญหาข้อกฎหมายต้องเป็นข้อเท็จจริงเพียงพอที่ศาลจะรับฟังได้หรือเป็นข้อเท็จจริงซึ่งยุติแล้วเท่านั้น มิได้หมายความว่าเมื่อคู่ความฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดยื่นคำร้องเข้ามาโดยจะมีข้อเท็จจริงอยู่หรือไม่ก็ตามศาลจำต้องวินิจฉัยชี้ขาดให้ทุกเรื่องเสมอไปไม่คดีนี้จำเลยที่ 10 ถึงที่ 14 เพิ่งยื่นคำให้การต่อสู้คดีโดยยังมิได้มีการสืบพยาน ฉะนั้นจึงยังไม่มีข้อเท็จจริงที่ยุติซึ่งศาลจะนำมาวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายตามคำร้องของจำเลย ที่ศาลชั้นต้นไม่วินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายตามคำร้องของจำเลย ชอบแล้ว ฎีกาข้อนี้ของจำเลยที่ 10 ถึงที่ 14 ฟังไม่ขึ้น
ส่วนข้อที่จำเลยที่ 10 ถึงที่ 14 ฎีกาว่า การที่ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องโดยยังไม่วินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายของจำเลยให้เสร็จสิ้นเสียก่อน คำสั่งของศาลชั้นต้นย่อมไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา ศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีไม่มีเหตุที่ศาลจะวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าวและยกคำร้องของจำเลยไปแล้ว ศาลชั้นต้นย่อมใช้ดุลพินิจอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 175 หาเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายแต่อย่างใดไม่ ฎีกาของจำเลยที่ 10 ถึงที่ 14 ฟังไม่ขึ้นเช่นกัน’
พิพากษายืน โจทก์ไม่แก้ฎีกาจึงไม่กำหนดให้จำเลยใช้ค่าทนายความชั้นฎีกาแก่โจทก์.