แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ทนายจำเลยทราบวันนัดในคดีนี้เป็นอย่างดีแล้ว ทั้งเมื่อถึงวันนัดไต่สวนดังกล่าว ทนายโจทก์มาศาลตามนัดและศาลชั้นต้นก็ออกนั่งพิจารณา ตามเวลาที่นัดแต่ฝ่ายจำเลยกลับไม่มาศาล การจำวันนัดหรือลงวันนัดผิดพลาดเป็นความประมาทเลินเล่อของทนายจำเลยเองซึ่งมิได้ใช้ ความละเอียดรอบคอบให้สมกับเป็นผู้ประกอบวิชาชีพที่เป็นที่ไว้วางใจ ของประชาชน ซึ่งหากทนายจำเลยบันทึกวันเวลาที่นัดหมายลงใน สมุดนัดความโดยตรวจสอบจากรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้น ก่อนข้อผิดพลาดเช่นนี้ย่อมไม่มีทางที่จะเกิดขึ้นได้ ความผิดพลาด อันเกิดจากความประมาทเลินเล่อของทนายจำเลยเองเช่นนี้ มิใช่เหตุสมควร ที่จะยกขึ้นอ้างเพื่อขอให้มีการยกคดีขึ้นไต่สวนได้อีก
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระหนี้ให้แก่โจทก์
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยทั้งสองขาดนัดพิจารณาและพิจารณาชี้ขาดตัดสินคดีไปฝ่ายเดียวแล้วพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เงินให้โจทก์
จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนคำร้อง จำเลยทั้งสองไม่มาตามวันเวลานัด ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าถือว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบให้ยกคำร้อง จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องว่าไม่ได้จงใจไม่มาศาลตามนัดขอให้ศาลชั้นต้นยกคดีขึ้นไต่สวนใหม่ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่า ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยทั้งสองนัดแรกเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2541 ซึ่งในวันดังกล่าวเสมียนทนายโจทก์และทนายจำเลยทั้งสองมาศาล ทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีเพราะติดว่าความที่ศาลอื่น และเพิ่งได้รับสำเนาคำร้องขอพิจารณาใหม่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนไปไต่สวนคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ในวันที่ 26 ตุลาคม 2541 เวลา 13.30 นาฬิกา โดยทนายจำเลยทั้งสองลงลายมือชื่อทราบนัดในรายงานกระบวนพิจารณาด้วยตนเอง แต่เมื่อถึงวันเวลานัด คงมีแต่ทนายโจทก์มาศาลส่วนฝ่ายจำเลยทั้งสองไม่มาศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งว่า จำเลยทั้งสองไม่มีพยานมาสืบให้ยกคำร้องต่อมาทนายจำเลยทั้งสองมายื่นคำร้องในวันที่ 27 ตุลาคม 2541ขอให้ศาลชั้นต้นยกคดีขึ้นไต่สวนใหม่ โดยอ้างว่าเหตุที่ไม่ได้มาศาลเพราะทนายจำเลยทั้งสองลงวันนัดในสมุดนัดเป็นวันที่ 27 ตุลาคม 2541
ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยทั้งสองมีว่า สมควรยกคดีชั้นไต่สวนคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยทั้งสองขึ้นไต่สวนหรือไม่จำเลยทั้งสองฎีกาว่า ในวันนัดวันที่ 26 ตุลาคม 2541 ทนายจำเลยทั้งสองมีนัดว่าความที่ศาลแพ่งธนบุรี ในคดีหมายเลขดำที่ 6132/2538 อยู่แล้วไม่มีเหตุผลใดที่จะมานัดคดีนี้ซ้อนกันเข้ามาอีก การลงวันนัดผิดพลาดมิใช่ความผิดของทนายจำเลยทั้งสอง เห็นว่า ตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้น ลงวันที่ 3 สิงหาคม 2541 มีข้อความระบุไว้ชัดแจ้งว่าศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนไปนัดไต่สวนคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยทั้งสองในวันที่ 26 ตุลาคม 2541 เวลา 13.30 นาฬิกา โดยทนายจำเลยทั้งสองเป็นผู้ลงลายมือชื่อทราบนัดดังกล่าวในรายงานกระบวนพิจารณาด้วยตนเองและมิได้โต้แย้งหรือคัดค้านแต่อย่างใดว่า ตามวันเวลาที่นัดใหม่นี้ทนายจำเลยทั้งสองมีนัดว่าความในคดีอื่นไว้ก่อนแล้ว ดังนี้ต้องถือว่าทนายจำเลยทั้งสองทราบวันนัดในคดีนี้เป็นอย่างดีแล้ว ทั้งเมื่อถึงวันนัดไต่สวนดังกล่าว ทนายโจทก์มาศาลตามนัดและศาลชั้นต้นก็ออกนั่งพิจารณาตามเวลาที่นัด แต่ฝ่ายจำเลยทั้งสองกลับไม่มาศาล การจำวันนัดหรือลงวันนัดผิดพลาดจึงเป็นความประมาทเลินเล่อของทนายจำเลยทั้งสองเองซึ่งมิได้ใช้ความละเอียดรอบคอบให้สมกับเป็นผู้ประกอบวิชาชีพที่เป็นที่ไว้วางใจของประชาชน ซึ่งหากทนายจำเลยทั้งสองบันทึกวันเวลาที่นัดหมายลงในสมุดนัดความโดยตรวจสอบจากรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นก่อน ข้อผิดพลาดเช่นนี้ย่อมไม่มีทางที่จะเกิดขึ้นได้ ความผิดพลาดอันเกิดจากความประมาทเลินเล่อของทนายจำเลยทั้งสองเองเช่นนี้ จึงมิใช่เหตุสมควรที่จะยกขึ้นอ้างเพื่อขอให้มีการยกคดีชั้นไต่สวนคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยทั้งสองขึ้นไต่สวนได้อีก
พิพากษายืน