คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3774/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์เคยฟ้องจำเลยทั้งสองเกี่ยวกับการกระทำตามฟ้องนี้เป็นคดีอาญามาครั้งหนึ่งแล้วซึ่งในคดีดังกล่าวโจทก์ไม่มาศาลในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ศาลชั้นต้นจึงพิพากษายกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 วรรคแรก คดีถึงที่สุด เช่นนี้ โจทก์จะฟ้องจำเลยทั้งสองในเรื่องเดียวกันอีกไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 วรรคสาม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ศาลลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๕๘, ๓๕๙(๔), ๓๖๒, ๓๖๓, ๘๓, ๘๔, ๙๐, ๙๑ และขอให้ศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ และให้ขับไล่จำเลยทั้งสองกับให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากที่พิพาททั้งหมด
จำเลยยื่นคำร้องว่า มูลเหตุที่โจทก์นำมาฟ้องเป็นคดีนี้เป็นมูลเหตุเดียวกันกับในคดีอาญาเรื่องก่อนซึ่งศาลได้พิพากษายกฟ้องไปแล้ว
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยแล้วให้ยกฟ้องคดีส่วนอาญาและจำหน่ายคดีส่วนแพ่ง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คงมีปัญหาเฉพาะในส่วนคดีอาญาเท่านั้นในปัญหาดังกล่าวข้อเท็จจริงยุติว่า การกระทำของจำเลยทั้งสองที่โจทก์อ้างว่าเป็นความผิดในคดีนี้นั้น โจทก์เคยฟ้องจำเลยทั้งสองมาครั้งหนึ่งแล้วซึ่งในคดีดังกล่าวในชั้นไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ไม่มาศาล ศาลพิพากษายกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๖๖ วรรคแรก คำพิพากษาถึงที่สุด เช่นนี้ โจทก์จะฟ้องจำเลยทั้งสองในเรื่องเดียวกันนั้นอีกไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๖ วรรคสาม
พิพากษายืน

Share