แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การแต่งตั้งผู้ชำระบัญชีโดยผู้เป็นหุ้นส่วนแต่บางคนนั้นไม่ชอบผู้เป็นหุ้นส่วนฟ้องให้ชำระบัญชีใหม่ได้ แต่จะเรียกทุนคืนทีเดียวไม่ได้เป็นเรื่องที่ต้องว่ากล่าวกันในชั้นชำระบัญชี
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์จำเลยตกลงเข้าทุนร่วมกันกระทำการค้าสุราขายส่งเพื่อประสงค์จะแบ่งผลกำไร โดยโจทก์ออกเงินทุน 50,000 บาทเป็นหุ้น 5 หุ้น และจำเลยออกเงิน 50,000 บาท เป็นหุ้น 5 หุ้น กระทำการค้าช่วงสุราที่อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ใช้ชื่อว่าร้านสาขาขายส่งสุราสุรชัย มิได้จดทะเบียนหุ้นส่วน และให้จำเลยเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการเริ่มงานตั้งแต่เดือนมกราคม 2493 มิได้กำหนดเวลาเลิกกิจการ เมื่อเริ่มงานวันที่ 31 ธันวาคม 2492 โจทก์ได้มอบเงิน 30,000 บาท และเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2493 โจทก์ได้มอบเงิน 20,000 บาท ให้จำเลยรับไปดำเนินงาน จำเลยดำเนินการมาจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2494 ก็เลิกกิจการ และตั้งผู้ชำระบัญชีโดยพลการ โจทก์ทราบจึงร้องขอตรวจสมุดบัญชีเอกสารหลักฐานของหุ้นส่วน จำเลยบิดพลิ้วไม่ยอมให้ตรวจที่สุดจำเลยส่งเงินทุนให้โจทก์ 10,000 บาท และต่อมาได้ส่งบัญชีกำไรขาดทุนไปให้โจทก์ดูปรากฏว่า บัญชีทำไม่ถูกแบบ ไม่ตรงความจริง หุ้นส่วนรายนี้มิได้ขาดทุน ขอให้ศาลพิพากษาให้เลิกห้างหุ้นส่วนขายส่งสุราสุรชัยและตั้งผู้ชำระบัญชีตามกฎหมาย ให้จำเลยคืนเงินทุน 40,000 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ ให้จำเลยใช้ค่าธรรมเนียมค่าทนายแทนโจทก์
จำเลยให้การว่า โจทก์จำเลยและผู้มีชื่อตกลงเข้าหุ้นส่วนรับผูกขาดร้านขายส่งสุราเขต 2 อำเภอบางปะกง เพื่อทำการจำหน่ายสุรามีกำหนด 2 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2493 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2494 มีวัตถุประสงค์แบ่งกำไรกัน หุ้นส่วนมี 16 หุ้นครึ่ง มูลค่าหุ้นละ 10,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 165,000 บาท เป็นหุ้นส่วนสามัญ ผู้เป็นหุ้นส่วนตกลงกันว่าเมื่อทำการค้าครบปีให้จัดการชำระบัญชีทำงบดุลย์ครั้งหนึ่ง จำเลยเป็นผู้จัดการร้านค้าสุรานายจำลองหุ้นส่วนผู้หนึ่งเป็นผู้ชำระบัญชีร้านค้าส่งสุรานี้ใช้ชื่อว่าร้านขายส่งสุรา อำเภอบางปะกง โจทก์ลงทุน 30,000 บาท มิใช่ 50,000 บาท เมื่อทำการค้าครบกำหนดแล้ว ผู้เป็นหุ้นส่วนได้ให้ผู้ชำนาญการบัญชีตรวจชำระบัญชี และทำงบดุลถูกต้องแล้ว ปรากฏว่าการค้ามีกำไร เงินทุน 30,000 บาท ของโจทก์ นั้น โจทก์และตัวแทนของโจทก์รับไปจากจำเลยเสร็จแล้ว ขอให้ศาลยกฟ้องโจทก์ ให้โจทก์ใช้ค่าธรรมเนียมและค่าทนายแทนจำเลยด้วย
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า หุ้นส่วนการค้าสุรารายนี้เลิกกันแล้ว แต่มิได้มีการชำระบัญชีให้ถูกต้อง ให้ตั้งผู้จัดการชำระบัญชีหุ้นส่วนการค้าสุรารายนี้ ให้จำเลยคืนเงินทุน 40,000 บาท ให้โจทก์ให้คิดดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ในเงินจำนวนนี้ตั้งแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยคืนเงินทุน 40,000 บาท ให้โจทก์นั้น ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นด้วย คงพิพากษาแก้ ให้จัดการชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนรายนี้เสียใหม่ ให้ถูกต้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1061
โจทก์จำเลยฎีกา
ฎีกาโจทก์ขอให้จำเลยคืนเงินทุน 40,000 บาท ฎีกาจำเลยขอให้ยกฟ้อง
ศาลฎีกาตรวจสำนวนแล้ว คดีคงฟังได้ว่า โจทก์จำเลยเป็นหุ้นส่วนกันจริง ข้อที่จำเลยแก้ว่า ได้มีการชำระบัญชีเสร็จและโจทก์รับเงินไปแล้ว ทางพิจารณาคงได้ความว่า จำเลยตั้งผู้ชำระบัญชีโดยลำพัง โจทก์มิได้รู้เห็นยินยอมด้วย ทั้งนี้จะเห็นได้จากคำเบิกความจำเลยว่าตั้งแต่เข้าหุ้นส่วนกันแล้วมิได้มีการประชุมผู้ถือหุ้นเลย และคำนายชวน ซึ่งจำเลยอ้างว่า เป็นผู้ชำระบัญชีก็ปรากฏว่า จำเลยเป็นผู้จ้างไป ไม่ได้ความว่าผู้เป็นหุ้นส่วนได้ตกลงตั้งให้เป็นผู้ชำระบัญชี เช่นนี้จะให้ฟังว่า ได้มีการชำระบัญชีเสร็จไปแล้วไม่ได้
เมื่อหุ้นส่วนยังมิได้ชำระบัญชีให้ถูกต้อง ก็ต้องดำเนินการชำระบัญชีใหม่ดังที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษา ส่วนฎีกาโจทก์ขอเรียกเงินทุน 40,000 บาทจากจำเลยนั้น ในคำขอโจทก์ท้ายฟ้องก็ขอให้มีการชำระบัญชีหรือให้จำเลยคืนทุน 40,000 บาท โจทก์จะเอาทั้งสองอย่างไม่ได้ อนึ่ง เมื่อยังมิได้มีการชำระบัญชีกันแล้วก็ยังทราบไม่ได้ว่า หุ้นส่วนจะมีทรัพย์สมบัติเท่าใด โจทก์จะเรียกให้จำเลยใช้เงินทุนก่อนย่อมไม่ได้ ส่วนที่ว่าโจทก์ลงทุนเท่าใดรับมาแล้วเท่าใดหรือไม่ เป็นเรื่องที่จะว่ากล่าวกันในชั้นชำระบัญชี
เหตุนี้ จึงเห็นว่า ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ศาลนี้คงพิพากษายืน ค่าธรรมเนียมชั้นนี้เป็นพับ