คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3739/2527

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลย จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ปฏิเสธไม่ยอมรับอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ยกคำร้อง มีผลเป็นการไม่รับอุทธรณ์ยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้น แม้เหตุที่ยกขึ้นอ้างในการไม่รับอุทธรณ์จะต่างกัน คำสั่งศาลอุทธรณ์ย่อมเป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236วรรคแรก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 2 และที่ 3 เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 1 ได้กระทำละเมิดต่อโจทก์ในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 1 โจทก์ได้รับความเสียหายเป็นเงิน 300,000 บาทขอให้จำเลยทั้งสามร่วมกันใช้เงินจำนวนดังกล่าวแก่โจทก์

จำเลยที่ 1 ให้การว่า จำเลยที่ 2 ที่ 3 ไม่ใช่ลูกจ้างของจำเลยที่ 1 เหตุเกิดขึ้นเพราะความประมาทของโจทก์เอง ขอให้ยกฟ้อง

จำเลยที่ 2 และที่ 3 ขาดนัดยื่นคำให้การ

ก่อนวันนัดสืบพยานโจทก์ จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอแก้ไขคำให้การและฟ้องแย้งรวมกันมา ศาลชั้นต้นเห็นว่าคำร้องของจำเลยที่ 1 ไม่มีข้อความใดที่เป็นการยกข้อต่อสู้ขึ้นแก้คำฟ้อง ถือไม่ได้ว่าเป็นการแก้ไขคำให้การ กรณีไม่อาจรับฟ้องแย้งไว้พิจารณามีคำสั่งไม่รับฟ้องแย้ง

จำเลยที่ 1 อุทธรณ์

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า อุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 มิได้แสดงเหตุใดโดยชัดแจ้งเป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225ไม่รับอุทธรณ์

จำเลยที่ 1 อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ปฏิเสธไม่ยอมรับอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า ตามคำร้องขอแก้ไขคำให้การ จำเลยที่ 1 มิได้ยกข้อต่อสู้อย่างใดขึ้นใหม่ กฎหมายบัญญัติให้จำเลยฟ้องแย้งรวมมาในคำให้การเมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ได้ฟ้องแย้งมาในคำให้การเดิมหรือคำให้การที่แก้ไขเพิ่มเติมย่อมไม่มีสทธิที่จะฟ้องแย้งได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสาม ให้ยกคำร้อง

จำเลยที่ 1 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1เมื่อจำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ปฏิเสธไม่ยอมรับอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ยกคำร้อง มีผลเป็นการไม่รับอุทธรณ์ยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้น แม้เหตุที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ยกขึ้นอ้างในการไม่รับอุทธรณ์จะต่างกันคำสั่งศาลอุทธรณ์ย่อมเป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 236 วรรคแรก จำเลยที่ 1 ไม่มีสิทธิฎีกา ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

พิพากษายกฎีกาจำเลยที่ 1

Share