แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 จึงไม่รับโจทก์เห็นว่า ฎีกาของโจทก์ในข้อ 2 ทั้งหมดเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายเพราะโจทก์มิได้ฎีกาในข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำของจำเลยแต่อย่างใด เทียบแนวคำพิพากษาฎีกาที่ 1967/2515อีกทั้งกรณีไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าจำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้วหรือไม่
โจทก์ฟ้องและแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177,91
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้องศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 58)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 59)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 220 ที่แก้ไขแล้ว ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในคดีซึ่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ เห็นได้ว่าเป็นการห้ามฎีกาทั้งในปัญหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์นั้นชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง